“มาย-อาโป” ปลุกพลัง “ซีรีส์วาย” ดันสินค้าไทยโกอินเตอร์

กระทรวงพาณิชย์ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการผลักดันสินค้าและบริการของไทยก้าวสู่ตลาดโลก!! ใช้ “Soft Power” ไทย ซึ่งก็คือ ดารา นักแสดงชื่อดัง ที่มีอิทธิพลต่อความคิด และจิตใจของแฟนคลับทั่วโลก ให้เป็นผู้จุดกระแสความนิยมสินค้าและบริการไทย และทำให้สามารถครองใจผู้คนทั่วโลก ถือเป็นการเพิ่มช่องทางการทำตลาดใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากที่กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการอยู่แล้ว

การใช้ผู้ทรงอิทธิพล หรือ Influencer ช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าไปทั่วโลก จะทำให้แฟนคลับที่รัก และชื่นชอบในตัว Influencer นักแสดง ต้องการซื้อ ต้องการใช้สินค้าต่างๆ ที่นักแสดงสนับสนุน และหากเป็นแฟนคลับต่างชาติ ก็อยากจะตามรอยซีรีส์มาเที่ยวยังสถานที่ถ่ายทำในประเทศไทย

ซึ่งจะส่งผลให้มีการสั่งซื้อสินค้าต่างๆ ของไทย เดินทางมากิน มาเที่ยวประเทศไทย มาใช้บริการต่างๆ ของไทย เช่นเดียวกับที่เกาหลี ทำจนประสบความสำเร็จมาแล้ว เมื่อถึงจุดนั้น จะทำให้ประเทศไทยมีเงินสะพัด การค้าขายคล่องตัว การท่องเที่ยวเติบโต เศรษฐกิจขยายตัว และประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นั่นจึงเป็นที่มาของโปรเจกต์ยักษ์ “MOC X BOC” ที่กระทรวงพาณิชย์ และ บริษัท บี ออน คลาวด์ จำกัด (BOC) ผู้ผลิตซีรีส์วาย และภาพยนตร์ชื่อดัง ต้นสังกัดของ 2 นักแสดงชื่อดังระดับโลก คือ “มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง” และ “อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์” จากซีรีส์วาย KinnPorsche The Series  และภาพยนตร์ “แมนสรวง” ที่จะทำงานร่วมกัน

เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 67 กระทรวงพาณิชย์ โดย “กีรติ รัชโน” ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามในบันทึกแสดงเจตจำนง (MOI) ร่วมกับ “กฤษดา วิทยาขจรเดช” ผู้บริหาร BOC เพื่อร่วมกันส่งเสริม ผลักดัน และยกระดับสินค้าและบริการไทยสู่ตลาดโลก รวมถึงสนับสนุนไทยเข้าสู่สังคมแห่งความเท่าเทียมทางเพศ

“ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เล่าในระหว่างการแถลงข่าวความร่วมมือดังกล่าวว่า อยากให้กระทรวงพาณิชย์ ทำงานแบบ “คิดนอกกรอบ” อย่าติดอยู่กับการทำงานแบบเดิม เพราะจะได้ผลแบบเดิม ต้องทำอะไรใหม่ๆ เพื่อให้ได้ผลใหม่ๆ บ้าง

ประกอบกับ มีโอกาสพบกับ “อัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดกาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ได้แนะนำให้เอานักแสดงซีรีส์วาย “มาย-อาโป” มาร่วมงาน

“นักแสดงทั้ง 2 ท่าน มีแฟนคลับที่รักเขาอยู่ทั่วโลก และแฟนคลับกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูง จึงอยากจะทำโครงการร่วมกัน โดยใช้ความรักของทุกคนที่มีต่อประเทศชาติ และต่อมาย-อาโป มาช่วยกันทำให้สินค้าไทยก้าวไปสู่สินค้าระดับโลก โดยเฉพาะสินค้าของคนตัวเล็ก อย่างเอสเอ็มอี สินค้าของผู้ผลิตในชุมชน ท้องถิ่นต่างๆ”

ขณะที่ กฤษดา ผู้บริหาร BOC บอกว่า มีความฝันมาตั้งแต่เด็กว่า อยากสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ แต่สำหรับตัวเอง ถ้าจะให้ต่อยมวยไทย คงไม่ไหว ความร่วมมือครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสดีที่จะช่วยกันผลักดันสินค้าไทยให้อวดสายตาชาวโลก และสร้างชื่อเสียงให้สินค้าไทย ประเทศไทย โดยการใช้ Influencer ระดับโลก ที่เรามีอยู่

“บริษัทจะร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในโปรเจกต์ใหม่ คือ ซีรีส์วายพีเรียด หรือย้อนยุคเรื่อง “ชาย” หรือ “Shine” ที่นำแสดงโดย มาย-อาโป โดยเราจะเขียนบทให้มีสินค้าไทยเข้าไปอยู่ในฉากแบบเนียนๆ เหมือนกับที่เรา tie-in แป้งศรีจันทร์ ในหนังเรื่องแมนสรวง ซึ่งตอนนี้ มีคิดไว้บ้างแล้วจะเป็นสินค้าอะไร เช่น ยาอม ข้าว เครื่องหอม ขนมไทย ฯลฯ” 

ส่วนแฟนคลับ “ด้อมสวนผัก” ของมาย-อาโป ที่แห่มาให้กำลังใจถึงกระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 31 ม.ค. 67 บอกว่า แฟนคลับพร้อมสนับสนุนสินค้าที่นักแสดงทั้ง 2 คนให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และมั่นใจว่า แฟนคลับในต่างประเทศ ก็จะให้การสนับสนุนเช่นเดียวกัน

โดยหลังจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะร่วมกับ BOC คัดเลือกสินค้าดี สินค้าเด่น ของแต่ละชุมชน แต่ละจังหวัด เพื่อนำเข้ามาอยู่ในฉาก หรือนำมาเป็นเครื่องประกอบฉาก ถ้าเป็นกลุ่มสินค้าแฟชั่นก็จะนำมาสวมใส่เป็นคอสตูมของนักแสดง

และทันทีซีรีส์ “ชาย” หรือ “Shine” ออกฉาย แฟนคลับ “ด้อมสวนผัก” ของ “มาย-อาโป” ที่มีกว่า 3 ล้านคน ใน 100 ประเทศทั่วโลก จะได้เห็นและรู้จักสินค้าไทยหลากหลายชนิดมากขึ้น ทำให้สินค้าของคนตัวเล็ก โดยเฉพาะของเอสเอ็มอี สินค้าของชุมชนท้องถิ่นต่างๆ สินค้าของเกษตรกร เข้าไปนั่งในใจของผู้คนทั่วโลก

เป็นการทำให้สินค้าไทยโกอินเตอร์ (Local to Global) โดยใช้พลังของ Influencer ที่เป็น Soft Power ไทยอย่างแท้จริง!!

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ จะสนับสนุน BOC ไปออกงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมบันเทิงในต่างประเทศ และจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาทางธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้ บริษัทขยายตลาดในหลากหลายประเทศมากขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์ พร้อมร่วมมือกับบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมบันเทิงในลักษณะเดียวกันนี้ด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ คาดว่า ความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศจากการส่งออกภาพยนตร์ ซีรีส์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท และยังช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการผลักดันสินค้า บริการ และการท่องเที่ยวได้อีกราว 5,000 ล้านบาท

ถึงเวลาที่พลังของ “ด้อมสวนผัก” และ “ซีรีส์วาย” จะปลุกกระแสสินค้าไทยให้ดังไกลไปทั่วโลก!!

ติดตามข่าวสารอัปเดต เศรษฐกิจ เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจในประเทศ บทวิเคราะห์เศรษฐกิจ ล่าสุด ได้ที่นี่

ข่าวเศรษฐกิจ : https://www.thairath.co.th/money/economics 

เศรษฐกิจนในประเทศ : https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

เศรษฐกิจโลก : https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney