ไปรษณีย์สหรัฐฯ หรือ The U.S. Postal Service (USPS) ระงับพัสดุขาเข้าจากจีนและฮ่องกงชั่วคราว หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จ่อยกเลิกกฎยกเว้นภาษีสินค้าที่มูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ de minimis ซึ่งเป็นช่องโหว่ทางการค้าที่บริษัทค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซจีน โดยเฉพาะ Temu และ Shein ใช้ประโยชน์เพื่อขายสินค้าตัดราคา ตีตลาดผู้บริโภคสหรัฐฯ
ทั้งนี้ USPS กล่าวว่าการระงับพัสดุดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการนำส่งจดหมายแบบปกติและการจัดส่งพัสดุแบบอัตราคงที่ที่มาจากจีนและฮ่องกง
แม้ USPS จะไม่ได้ระบุสาเหตุเบื้องหลังของการระงับรับพัสดุจากจีนและฮ่องกง แต่ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลทรัมป์เล็งที่จะยกเลิกกฎ de minimis ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่สร้างข้อได้เปรียบด้านราคาให้กับบริษัทอีคอมเมิร์ซจีนและค้าปลีกเหนือเจ้าตลาดในประเทศอย่าง Amazon โดยสามารถส่งสินค้าราคาถูกมาขายจำนวนมากโดยไม่ต้องเสียภาษี จนตีตลาดสหรัฐฯ กลายเป็นสินค้าทางเลือกสำหรับผู้บริโภครายได้น้อยได้สำเร็จ
หลังการประกาศของ USPS ทำให้หุ้นค้าปลีกอีคอมเมิร์ซจีนร่วงทันที โดยหุ้นของ Alibaba Group ร่วงลงมากกว่า 2% ในตลาดหุ้นฮ่องกง และหุ้นของ JD.com ดิ่งลงมากกว่า 5%
นอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ยังมองว่าการสินค้าราคาถูกที่หลั่งไหลมาจากจีนนั้นยากต่อการตรวจสอบ ทำให้อาจมีสิ่งผิดกฎหมายหรือเป็นอันตรายแฝงตัวมาด้วย ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกันที่ทำให้สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าอีก 10% จากสินค้าจีนทุกประเภทตั้งแต่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา
ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสำเร็จของ Temu และ SHEIN ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการมีอยู่ของกฎ de minimis ข้อมูลจากรายงานของคณะกรรมการสภาคองเกรสของสหรัฐฯ พบว่าในเดือน มิ.ย. 2566 มากกว่า 30% ของพัสดุที่ถูกส่งมายังสหรัฐฯ รายวันภายใต้ข้อยกเว้นภาษี de minimis มาจากทั้งสองบริษัทตามรายงานระบุว่าพัสดุเกือบครึ่งหนึ่งที่จัดส่งภายใต้เงื่อนไข de minimis มาจากจีน
เชลซี แทม (Chelsey Tam) นักวิเคราะห์หุ้นอาวุโสของ Morningstar กล่าวว่า
“ในมุมมองของเรา USPS ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการหาวิธีจัดการกับการเปลี่ยนแปลงมาตรการภาษี ก่อนที่จะอนุญาตให้พัสดุจากจีนเข้ามาในสหรัฐฯ อีกครั้ง”
“นี่เป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับพวกเขา เนื่องจากมีพัสดุภายใต้ de minimis มากถึง 4 ล้านชิ้นต่อวันในปี 2567 ทำให้การตรวจสอบพัสดุทั้งหมดเป็นเรื่องยาก ดังนั้นมันจึงต้องใช้เวลา”
ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการยกเลิกกฎ de minimis ของทรัมป์จะทำให้สินค้าที่ขายโดยบริษัทอย่าง Shein และ Temu มีราคาแพงขึ้น แต่ไม่น่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อปริมาณการจัดส่ง
ไนออล ฟาน เดอ วูว์ (Niall van de Wouw) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขนส่งสินค้าทางอากาศของแพลตฟอร์มขนส่งสินค้า Xeneta กล่าวว่า “ปริมาณการจัดส่งสินค้าอีคอมเมิร์ซจากจีนเติบโตขึ้น 20-30% ในปีที่แล้ว ดังนั้นจำเป็นต้องใช้ยาแรงเพื่อลดความต้องการของผู้บริโภคในระดับนั้น และฉันไม่แน่ใจว่าการยกเลิก de minimis เพียงอย่างเดียวนั้นเพียงพอหรือไม่”
ทั้งนี้เขากล่าวเสริมว่า แม้จะมีการยกเลิกกฎ de minimis แต่ราคาสินค้าจีนจะยังคงถูกกว่าสินค้าที่ขายโดยผู้ค้าปลีกในสหรัฐฯ การได้รับสินค้าที่ล่าช้าเนื่องมาจากการจัดส่งที่หยุดชะงัก อาจส่งผลกระทบมากกว่าปัจจัยด้านราคา
ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศ กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
ที่มา