ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมออกมาตรการควบคุมธุรกิจบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน และแก้ปัญหาคนรุ่นใหม่ที่จบการศึกษาและเริ่มเข้าทำงาน สร้างหนี้เกินตัว โดยเกณฑ์ใหม่เริ่มใช้เดือน ส.ค.นี้ ได้ปรับเปลี่ยนเพดานการปล่อยเงินกู้ จากเดิมคือธุรกิจบัตรเครดิต ให้ผู้มีรายได้ต่อเดือน 15,000-30,000 บาท ได้รับวงเงินสูงสุดไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้ ขณะที่ 30,000-50,000 บาท ได้วงเงินไม่เกิน 3 เท่า และรายได้ 50,000 บาทขึ้นไป ยังเหมือนเดิมที่ 5 เท่าของรายได้ แต่ไม่ได้ควบคุมจำนวนสถาบันการเงินออกบัตรเครดิต ด้านสินเชื่อบุคคลให้ผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้ และสถาบันการเงินปล่อยกู้ได้สูงสุด 3 แห่ง หรือคิดเป็น 4.5 เท่าของรายได้ ผู้มีรายได้ต่อเดือน 30,000 บาทขึ้นไปยังได้รับอนุมัติสินเชื่อ 5 เท่า
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวยอมรับว่า จะส่งผลให้ปีนี้การขยายตัวของสินเชื่อบุคคลไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ต้องไปเน้นปล่อยสินเชื่อบ้านทดแทน เพื่อดันให้ยอดสินเชื่อรายย่อยขยายตัวตามเป้าหมายที่ 10% นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรีคอนซูเมอร์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มาตรการควบคุมจะมีผลให้การปล่อยสินเชื่อบุคคลในปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้า แต่ผลกระทบธุรกิจบัตรเครดิตไม่มาก เนื่องจากผู้ขอใช้บริการรายใหม่ขยายตัวไม่มาก.