นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังนายโซจิ ซาคาอิ ประธานหอการค้าญี่ปุ่นประจำประเทศไทย (เจซีซี) เข้าพบเพื่อหารือความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยเจซีซีได้รายงานผลการสำรวจบริษัทญี่ปุ่นที่ลงทุนในประเทศไทย ในขณะนี้พบว่าล่าสุดมีบริษัทญี่ปุ่นสนใจที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) มากถึง 100 บริษัท จากเดิมก่อนหน้านี้ผลสำรวจออกมาว่ามีเพียง 50 บริษัทเท่านั้น ถือเป็นปรากฏการณ์ที่เหนือความคาดหมายของตนมาก
นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่าบริษัทญี่ปุ่นที่ยังไม่เคยเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมาก่อน สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีซี ตามบริษัทแม่ที่ขยายการลงทุนเข้ามาก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน
“นักลงทุนญี่ปุ่นสนใจและให้ความสำคัญในการเข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีซี เพราะนโยบายของญี่ปุ่นต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันทางการค้าและการลงทุนให้เพิ่มมากขึ้นในเวทีโลก เนื่องจากเห็นถึงศักยภาพในการเป็นจุดเชื่อมโยงของญี่ปุ่นเข้าไปยังตลาดอาเซียน รวมทั้งยังสามารถเชื่อมโยงเข้าไปตลาดโลกผ่านอีอีซี”
ทั้งนี้ บริษัทญี่ปุ่นที่แสดงความสนใจจะเข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีซี ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนอยู่ใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์และอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ขณะที่ในเดือน ก.ย.นี้ ประเทศไทยจะมีการจัดงานใหญ่ เพื่อฉลองความสัมพันธ์ไทยกับญี่ปุ่นครบรอบ 130 ปี ซึ่งภายในงานจะมี รมว.กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (เมติ) และองค์กรส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) มาร่วมงาน และยังได้เชิญคณะนักธุรกิจจากญี่ปุ่นเข้ามาร่วมงานด้วย เพื่อรับฟังรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนในอีอีซี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนญี่ปุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ว่า ปีที่ผ่านมา นักลงทุนญี่ปุ่นยังคงเป็นต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากที่สุดรวม 264 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 57,400 ล้านบาท ขณะที่ใน 2 เดือนแรกปีนี้มีนักลงทุนทั่วโลกได้ยื่นขอรับบีโอไอรวม 99 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 15,300 ล้านบาท.