แจกเงินหมื่นไม่ช่วยดันเศรษฐกิจ เงินสะพัดลอยกระทงหมื่นล้านสูงสุดรอบ 9 ปี

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

แจกเงินหมื่นไม่ช่วยดันเศรษฐกิจ เงินสะพัดลอยกระทงหมื่นล้านสูงสุดรอบ 9 ปี

Date Time: 7 พ.ย. 2567 08:05 น.

Summary

  • ลอยกระทงปีนี้สุดคึก! ม.หอการค้าไทยคาดเงินสะพัด 1.03 หมื่นล้านบาท สูงสุดรอบ 9 ปี ใช้จ่ายต่อคน 2.4 พันบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่แจกเงินหมื่นบาทไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ จี้รัฐออกมาตรการเพิ่ม

Latest

โรงแรมไทยฟื้นตัวรับไฮซีซั่น วอนรัฐดูแลทุนสีเทาแข่งขัน-ฉุดภาพลักษณ์ประเทศ

ลอยกระทงปีนี้สุดคึก! ม.หอการค้าไทยคาดเงินสะพัด 1.03 หมื่นล้านบาท สูงสุดรอบ 9 ปี ใช้จ่ายต่อคน 2.4 พันบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่แจกเงินหมื่นบาทไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ จี้รัฐออกมาตรการเพิ่ม

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจการใช้จ่ายผู้บริโภคช่วงวันลอยกระทง 15 พ.ย.นี้ ว่า บรรยากาศปีนี้คึกคัก เพราะคาดมีการใช้จ่ายสูงถึง 10,355 ล้านบาท เพิ่ม 3.5% จากปีก่อน ที่ 10,005 ล้านบาท สูงสุดรอบ 9 ปี นับจากปี 59 ที่ 9,639 ล้านบาท โดยใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน 2,449 บาท จากปี 66 ที่ 2,075 บาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ สาเหตุที่ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาจากราคาสินค้าแพง รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ รายได้เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายลดลง หนี้สินน้อยลง มั่นใจรายได้ในอนาคต

“มูลค่าใช้จ่ายที่สูงถึง 10,000 ล้านบาทในปีนี้ ใกล้เคียงปี 58 ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 11,413 ล้านบาท และปีนี้ยังมากสุดนับตั้งแต่ช่วงโควิดปี 62-64 ที่ใช้จ่ายกว่า 9,000 ล้านบาท ทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจมีสัญญาณฟื้น แต่ยังไม่โดดเด่น เพราะคนยังระวังใช้จ่าย ซื้อสินค้าน้อยชิ้นลง แต่ต้องใช้เงินมากขึ้นเพราะของแพง”

ส่วนเมื่อถามถึงการแจกเงิน 10,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน คิดเป็น 23% ของประชากรไทย วงเงินกว่า 145,000 ล้านบาทตั้งแต่เดือน ก.ย.67 นั้น ผู้ตอบมากถึง 52.7% บอกว่าใช้แล้วแต่ยังไม่หมด และอีก 47.3% ใช้หมดแล้ว โดยเกือบ 100% ของผู้ได้รับเงินใช้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ชี้ให้เห็นว่าเงินมากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือราวๆ 100,000 ล้านบาทเข้าสู่ระบบแล้ว แต่ยังไม่เห็นภาพที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเดือน ก.ย-ต.ค. เกิดน้ำท่วมใหญ่หลายพื้นที่ คาดว่าเศรษฐกิจเสียหาย 50,000-60,000 ล้านบาท ซึ่งความเสียหายนี้ดูดเงิน 100,000 ล้านบาทไปบางส่วน ทำให้คนมีเงินเหลือใช้ไม่มากนัก และเศรษฐกิจยังไม่ถูกกระตุ้นเท่าที่ควร

“ประชาชนเสียหายจากน้ำท่วมมาก ไม่มั่นใจใช้จ่าย มาตรการนี้เหมือนยิงกระสุนแล้วได้นกครึ่งตัว ไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ทำให้ประชาชนมองว่าถึงปลายปีนี้เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้น แต่จะเริ่มฟื้นไตรมาสแรกปี 68 และฟื้นโดดเด่นตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 68”

ดังนั้น ช่วงปลายปีนี้รัฐบาลต้องใส่มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม โดยเฉพาะ e-Receipt ที่กระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อการลดหย่อนภาษี ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องเสียงบประมาณกระตุ้นเลย และหากภาคส่งออกโตได้ถึง 2.5-3% ภาคท่องเที่ยวที่จะเด่นขึ้นช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. และเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากผลผลิตเกษตรเริ่มออกสู่ตลาด ก็น่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้โตได้ 2.6-2.8% ตามคาดการณ์ และจะมีแรงส่งให้ไตรมาสแรกปี 68 ขยายตัวโดดเด่น ขณะที่ปี 68 คาดขยายตัวที่ 3% แต่หากตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน ก็มีโอกาสที่จะโตได้ถึง 3.5%

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ