จากคดีดิไอคอนกรุ๊ป สู่ “แชร์ลูกโซ่” ที่ไม่ได้มีแค่ หลอกออมเงิน หรือ ลงทุน เปิดกลโกง 5 ขั้นตอน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จากคดีดิไอคอนกรุ๊ป สู่ “แชร์ลูกโซ่” ที่ไม่ได้มีแค่ หลอกออมเงิน หรือ ลงทุน เปิดกลโกง 5 ขั้นตอน

Date Time: 20 ต.ค. 2567 12:02 น.

Video

เศรษฐกิจไทย เสี่ยงวิกฤติหนักแค่ไหน เมื่อต้องเปลี่ยนนายกฯ | Money Issue

Summary

  • จากคดีดิไอคอนกรุ๊ป สู่ “แชร์ลูกโซ่” ไม่ได้มีแค่ หลอกออมเงิน หรือ การลงทุน เปิดกลโกง เมื่อเริ่มจัดฉาก ชักชวน เอ่ยปาก ดาราคนใหญ่โต ก็ร่วมงานกับเรา กับโมเดลธุรกิจสายมืด วัฏจักรเดิมๆ ที่เพิ่มเติม คือ ความเสียหาย

Latest


แม้คดี “ดิไอคอนกรุ๊ป” จะไม่ได้เป็นคดีแชร์ลูกโซ่ลำดับต้น ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่อัปเดตความเสียหายล่าสุด ข้อมูลจากตำรวจสอบสวนกลางเผยว่า ยอดทั่วประเทศพุ่งกว่า 1.3 พันล้านบาทแล้ว พร้อมคาดจำนวนผู้เสียหายหลอกลวงลงทุนของบริษัท “ดิไอคอนกรุ๊ป” ที่ยังไม่เข้าแจ้งความยังมีอีกเป็นจำนวนมาก ตอกย้ำการเป็นอีกหนึ่งคดีดัง มีโทษสูง และมีผู้เสียหายจำนวนมาก

ขณะ 18 ผู้ต้องหาถูกตั้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จฯ ยึดรถยนต์ 24 คัน เงินสด 7.5 ล้าน นาฬิกา 51 เรือน กระเป๋าและสินค้าแบรนด์เนม รวมมูลค่า 210 ล้านบาท ซึ่งยังมีการขยายผลต่อในการสืบทรัพย์ หลังพบผู้ต้องหาบางส่วนมีการเคลื่อนย้ายทรัพย์ ซึ่งอาจมีความผิดฐานฟอกเงินเพิ่มเติมอีกกระทง เช่นเดียวกับกรณีการใช้นอมินีมาร่วมเป็นผู้เสียหาย ทางตำรวจระบุจะตรวจสอบผู้ร่วมขบวนการด้วยเช่นกัน

แจ้งความคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป"

สำหรับผู้เสียหายคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" ยังสามารถแจ้งความได้ที่ สน. / สภ. ทุกแห่ง หรือศูนย์รับแจ้งความที่ใกล้และสะดวกที่สุด โดย 3 เอกสารหลักฐานที่ต้องจัดเตรียมประกอบการแจ้งความร้องทุกข์คดี THE iCON GROUP ประกอบไปด้วย

  • หลักฐานการโอนเงินที่ได้จากธนาคาร (Statement)
  • หลักฐานหน้าจอการสนทนาผ่านทางแอปพลิเคชันต่าง ๆ
  • หลักฐานสื่อโฆษณาชวนเชื่อ อันเป็นเหตุให้ท่านลงทุน

รูปแบบธุรกิจขายสินค้าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ผ่านช่องทางออนไลน์ ที่สร้างรายได้กว่า 10,000 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่เพิ่งก่อตั้งได้เพียง 5 ปี โดยมีบรรดา “บอส” และคนระดับ “แม่ข่าย” อยู่บนสุดของยอดพีระมิด โดยใช้ดารา-นักแสดง คนมีชื่อเสียง สร้างภาพความไว้ใจและชักจูงเหยื่อเป็นทอด ๆ รายได้ที่ไม่ได้มาจากการขายสินค้า แต่บอกต่อ หาคนสมัครได้มากเท่าไหร่ จะกลายเป็นโบนัสกลับคืน นี่เองทำให้หลายคนอยากเล่นกับเกมนี้

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ ”คดีดิไอคอน” เกิดขึ้นแบบไม่สูญเปล่า สังคมไทยต้องรู้เท่าทันกับโมเดลธุรกิจสายมืดให้มากขึ้น เพราะแม้ “แชร์ลูกโซ่” จะเปลี่ยนรูปแบบไปบ้าง และเพิ่มเติมคือคนเดือดร้อน แต่ลึกลงไป ธุรกิจสายดาร์กดังกล่าวก็ยังคงวนลูปด้วยวงจรแบบเดิม ๆ ที่สำคัญใครมาชวนให้ทำอะไรแปลก ๆ ผลตอบแทนเยอะ ๆ อย่าลืมตั้งคำถามว่าจริงหรือเท็จ?

ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุ แชร์ลูกโซ่มักแฝงในหลากหลายรูปแบบธุรกิจ ทำให้ประชาชนหลายกลุ่มตกเป็นเหยื่อ เช่น

  • สินค้าเกษตร
  • ขายตรงร่วมธุรกิจ, ทัวร์, สัมมนา
  • การลงทุนและการกู้ยืมเงิน

แต่หากสังเกตจะพบว่าการหลอกลวงแบบแชร์ลูกโซ่มีรูปแบบหลัก ๆ ใกล้เคียงกัน

โมเดลกลโกง"แชร์ลูกโซ่"

  • เน้นหาสมาชิกเพิ่ม เพิ่มระดมทุน การันตีผลตอบแทนสูงเกินจริง
  • จ่ายค่าแรกเข้าสูง และในช่วงแรกก็ได้ผลตอบแทนตามที่การันตี
  • ได้ค่าคอมมิชชันถ้าหาสมาชิกเพิ่มได้
  • ท้ายที่สุด ก็จะเริ่มเลื่อนจ่ายผลตอบแทน และปิดธุรกิจหนีไปในที่สุด

สรุป 5 ลำดับขั้น วงจร “แชร์ลูกโซ่”

  1. จัดฉากให้บริษัทดูน่าเชื่อถือ เช่น การอวดอ้าง หรือใช้ดารา คนใหญ่คนโต มาเป็นแม่เหล็กดึงดูด เพื่อเสนอขายสินค้าต่าง ๆ ชวนร่วมธุรกิจ การลงทุน การกู้ยืม ฯลฯ
  2. ชักชวนให้เหยื่อมาร่วมขบวนการ โดยเน้นให้ลงเงินครั้งแรกมาก ๆ ในรูปของค่าสมาชิกหรืออื่น ๆ
  3. ชักชวนต่อ ให้เหยื่อชักชวนญาติมิตรให้มาร่วมด้วย (มีคนเตือนก็จะไม่ยอมฟัง)
  4. บ่ายเบี่ยง เหยื่อไม่รับผลประโยชน์ตามที่สัญญาไว้ มีเพียงข้ออ้างต่าง ๆ เพื่อประวิงเวลา
  5. ปิดฉาก เหยื่อพากันไปหาตัว แต่พบธุรกิจ/กิจการถูกปิดตายไปแล้ว

สิ่งท่ีต้องระมัดระวังเพิ่มเติม คือ แชร์ลูกโซ่ ในปัจจุบัน มักแอบอ้างสินค้าหรือบริการต่าง ๆ รวมทั้ง หุ้น คริปโท หรือ สินทรัพย์ดิจิทัล ด้วย หากถูกชักชวนลงทุนต้องระมัดระวังให้มาก และควรลงทุนกับผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

สร้างเกราะป้องกัน ภัยกลโกง แชร์ลูกโซ่ 

  • ศึกษาหาความรู้ก่อนลงทุน มิจฉาชีพมักอาศัยความไม่เข้าใจหุ้นหรือคริปโทเคอร์เรนซี มาชักชวน จึงควรศึกษาความรู้การลงทุน เพราะการลงทุนมาพร้อมกับความเสี่ยง การันตีผลตอบแทนที่แน่นอนไม่ได้
  • มีสติ คิดก่อนตัดสินใจ เมื่อถูกชักชวนให้ลงทุน บีบให้ตัดสินใจ เน้นหาเครือข่ายโดยให้ผลตอบแทนสูง แต่จับต้องธุรกิจนั้นไม่ได้ ต้องระวังให้มาก
  • หากเป็นการชักชวนลงทุน/ระดมทุนในหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ดิจิทัลควรตรวจสอบว่าได้รับอนุญาตหรือไม่จากแอปพลิเคชัน SEC Check First
  • รู้ผลกระทบที่มากกว่าเสียเงิน หากหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อสูญเสียเงินไปแล้ว แต่ถ้าเราไปชักชวนคนอื่นมาลงทุนแชร์ลูกโซ่ ก็อาจมีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน 
  • ตื่นตัวและติดตามข่าวสารใหม่ ๆ ที่เกี่ยวกับการแชร์ลูกโซ่หรือการหลอกลวงลงทุนต่าง ๆ อยู่เสมอ เพราะมีวิธีหลอกลวงใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“แชร์ลูกโซ่ และธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่ มีความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี และปรับตั้งแต่ 5 แสน ถึง 1 ล้านบาท” 

ทั้งนี้ หากต้องการตรวจสอบว่าสิ่งที่เรากำลังร่วมอยู่เป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่ ติดต่อหน่วยงานเกี่ยวข้องดังนี้

  • ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ กระทรวงการคลัง โทร.1359
  • DSI โทร.1202
  • สคบ. โทร.1166
  • กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร.1570
  • ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร.1213

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ