“แพทองธาร” ประกาศ 4 วิสัยทัศน์พัฒนาเศรษฐกิจอาเซียน ให้ขยายตัว 4-5% ต่อปี ยกระดับเป็นเซฟโซนสำหรับนักลงทุนรองรับอุตสาหกรรมสมัยใหม่ พร้อมเสนอไทยเป็นสื่อกลางเจรจาสันติภาพ ด้าน “พิชัย” ดันไทยเป็นศูนย์กลาง Data Center ของอาเซียน ชวนนานาชาติลงทุนตั้ง Data Center ในไทย
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาหัวข้อ “พลิกเศรษฐกิจไทย ผงาดในเวทีอาเซียน” ในงาน ASEAN Economic Outlook 2025 : The Rise of ASEAN, A Renewing Opportunity โดยกรุงเทพธุรกิจ ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความร่วมมืออาเซียน โดยผลักดัน 4 ประเด็นพัฒนาเศรษฐกิจอาเซียนให้ขยายตัว 4-5% ทุกปี เพื่อให้เป็นเซฟโซนสำหรับนักลงทุนในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ คือ
1.ยกระดับเศรษฐกิจ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์มวลรวมทางเศรษฐกิจอาเซียน (GDP) มีมูลค่า 3.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 119 ล้านล้านบาท ขยายตัวเฉลี่ย 4-5% ทุกปี เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก เป็นตลาดน่าลงทุนแห่งหนึ่งของโลก และมีความปลอดภัย
ดังนั้น การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ สปป.ลาว สัปดาห์นี้จะแจ้งให้สมาชิกทราบถึงความร่วมมือทุกด้าน พร้อมปลดล็อกอุปสรรคด้านการค้า การลงทุน กฎระเบียบ และภาษี เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงกัน เมื่อนักลงทุนมาลงทุนในไทยก็เหมือนกับลงทุนไปทั้งตลาดอาเซียน
2.อาเซียนเป็นภูมิภาคสงบสุข ไม่มีความขัดแย้งระหว่างประเทศ เหมาะกับการลงทุน อีกทั้งจุดยืนไทยพร้อมเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพของประเทศต่างๆ เพื่อลดความขัดแย้งของโลก ล่าสุด นักลงทุนจีนกระจายลงทุนในอาเซียน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือโซลาร์เซลล์ “ทั่วโลกกำลังสนใจปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Data Center ซึ่ง Google ประกาศลงทุนในไทยแล้ว 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และยังมีอีกหลายบริษัทอยากมาลงทุน เพราะหลายประเทศมีความขัดแย้ง จึงต้องหาพื้นที่เก็บฐานข้อมูลปลอดภัยอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ก็พร้อมมาลงทุนในไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการจ้างงานอีกมาก”
นอกจากนี้ ในการประชุมผู้นำอาเซียน ไทยจะนำประเด็นเมียนมา ไปหารือกับผู้นำประเทศต่างๆเพื่อส่งเสริมสันติภาพ รวมทั้งจะเน้นทำงานกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่จะเป็นประธานอาเซียนในปี 68
3.การเชื่อมโยงด้านการขนส่ง และคมนาคมของอาเซียน จะช่วยยกระดับความเชื่อมโยงด้านการเดินทางมากขึ้น ขณะเดียวกัน อาเซียนยังสามารถเป็นศูนย์กลางด้านการส่งออกอาหาร ยกระดับเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหาร และคลังอาหารของภูมิภาคได้
4.ร่วมกันแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดภาวะโลกเดือด โดยทั้งหมดนี้จะนำไปหารือกับสมาชิกอาเซียนเพื่อหากลยุทธ์ร่วมกัน
ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการเข้าร่วมงาน Business Forum ของการประชุม ACD Summit ครั้งที่ 3 ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ เมื่อวันที่ 1-3 ต.ค.67 ว่า ได้หารือกับรัฐมนตรีและผู้แทนของประเทศต่างๆ เพื่อเสนอให้ไทยเป็นที่ตั้งของ Data Center ให้กับประเทศต่างๆ เช่น โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) โดยใช้จุดเด่นที่ไทยเป็นมิตรกับทุกประเทศ ทำให้ข้อมูลที่จัดเก็บใน Data Center ในไทยปลอดภัย พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงศักยภาพด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและเทคโนโลยีปัญญาประดิษ์ (เอไอ) ของไทย ที่บริษัทชั้นนำจากทั่วโลก เช่น Amazon, Microsoft และล่าสุด Google ได้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนสร้างที่เก็บข้อมูลในไทย.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม