ทอท.ผนึกทีเส็บลุยโปรเจกต์ “Thailand MICE One Stop Service” ดันไทยเป็นผู้นำตลาดไมซ์ควบฮับการบินโลก ย้ำภารกิจทีเส็บขานรับนโยบายรัฐบาล “อิ๊งค์” หัวหอกดึงอีเวนต์ประชุม นานาชาติเข้าไทยนำ 6 สนามบินเปิด “VIP Service” ต่อยอดใหม่ 3 บริการ เพิ่มความสะดวกหนุนไมซ์ทำรายได้ 2 แสนล้าน
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เปิดเผยว่า ทอท.ได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB (ทีเส็บ) ขับเคลื่อนโครงการสำคัญ Thailand MICE LANE One Stop Service โดยเปิดเลนพิเศษในสนามบินที่อยู่ในความดูแลทั้ง 6 แห่ง ให้บริการกลุ่มนักเดินทางขนาดต่างๆ ที่มีจุดประสงค์เข้ามาจัดงาน MICE (ไมซ์) เกี่ยวกับการประชุมสัมมนา จัดแสดงสินค้า จัดงานประชุมนานาชาติขนาดใหญ่ ซึ่งดึงดูดตลาดสำคัญที่พร้อมใช้จ่ายเงินระดับกลางจนถึงระดับสูง ในแต่ละทริปเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทย ปีละเกือบ 200,000 ล้านบาท
จากนโยบายดังกล่าว ทอท.จึงให้แต่ละสนามบินเปิด “เลนบริการพิเศษ” ช่วงปี 67 นำร่องสนามบินละ 1 เลน ต้อนรับนักเดินทางที่แจ้งผ่านทีเส็บ เพื่อเข้ามาจัดงานไมซ์ในเมืองไทย ส่งเรื่องมาถึง ทอท.ก็จะได้รับการดูแลด้วย “VIP Service” มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตั้งแต่หน้าประตูเครื่องบิน ไปจนจบทุกขั้นตอนเข้าเมือง คือ พาไปเช็กอินเคาน์เตอร์สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) รับกระเป๋าสัมภาระที่สายพาน ขึ้นรถออกจากสนามบินสู่เป้าหมายอย่างราบรื่น ขานรับนโยบายรัฐบาลเรื่องขยายฐานตลาดไมซ์และการประชุมนานาชาติจากทั่วโลกเข้าสู่ไทย เพิ่มรายได้ให้เศรษฐกิจไทยเติบโตตามเป้าหมายทุกปี นอกจากนี้ ทอท.ร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ติดตั้งอุปกรณ์บริเวณขาเข้าประเทศ ด้วยระบบอัตโนมัติพิเศษหรือ Auto Gate รองรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ ซึ่งปัจจุบันได้ติดตั้งขาเข้าไปแล้ว 12 ช่อง ส่วนนักเดินทางขาออกสามารถใช้ระบบประตูอัตโนมัติในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ติดตั้งแล้ว 81 เครื่อง เพื่อลดขั้นตอนเข้าออก ลดเวลาการรอคอยตรวจเอกสารต่างๆ
นายกีรติ กล่าวว่า นับจากนี้ ทอท.กับทีเส็บจะต่อยอดขยายความร่วมมือในมิติอื่นเพิ่มขึ้นอีกหลายโครงการ นอกจากกิจกรรมที่ 1 คือพิธีต้อนรับ : Welcoming นำพาผู้โดยสารกลุ่มไมซ์เข้าออกประเทศให้ได้เร็วที่สุด และกิจกรรมที่ 2 คือประสานงานกับสายการบินนานาชาติ โดยกำลังศึกษาแนวทาง Off Airport Check in หรือขั้นตอนการเช็กอินสำหรับกลุ่มเดินทางมาประชุม โดยประสานกับสถานที่จัดประชุมโดยตรง เช่น ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา หรืออิมแพ็ค เมืองทองธานี กับกลุ่มประชุมขนาดใหญ่ที่มีจำนวนคนเดินทางมาพร้อมกันครั้งละมากๆ “ผมในฐานะผู้นำ ทอท.เข้าใจบทบาทและภารกิจของทีเส็บเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นหน่วยงานหัวหอกนำนักเดินทางศักยภาพสูง กลุ่มจัดงานขนาดใหญ่ระดับนานาชาติ นำเงินมาลงทุนจัดอีเวนต์ ทั้งการแสดงสินค้า การประชุมระดับโลก โดยได้กำหนดจัดประชุมร่วมกันทุก 2-3 เดือน เพื่อกำหนดแนวทางบริการ กรอบความร่วมมือ รองรับนักเดินทางไมซ์ และนักธุรกิจกึ่งท่องเที่ยวด้วย”
นายกีรติ กล่าวต่อว่า ปี 68 ทอท.พร้อมบูรณาการทำงานร่วมกับทีเส็บตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่มอบนโยบายให้ทุกองค์กร ขับเคลื่อนนโยบายรองรับนักเดินทางกลุ่มขนาดใหญ่ ที่มาจัดประชุมสัมมนา เพื่อวางแผนให้บริการเพิ่มได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค หรือ Aviation Hub โดย ทอท.ได้ขยายความร่วมมือทำงานเชิงบูรณาการกับอีกหลายหน่วยงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และทุกคนเดินทางเข้าออกประเทศผ่านสนามบินอย่างราบรื่น.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่