โอนผ่านพร้อมเพย์ถอนใช้ได้ทันที คนพิการ เลขท้ายบัตรประชาชน 0 รับกลุ่มแรก

เปิดสูตรแจกเงินหมื่นดิจิทัลผ่านระบบพร้อมเพย์เท่านั้น เคาะเรียงลำดับโอนจ่ายตามเลขหลังบัตรประชาชน เริ่มจากเลข 0 และคนพิการได้ทันทีวันแรก 25 ก.ย. ทยอยโอนวันละ 4-5 ล้านคน จนวันสุดท้าย 30 ก.ย. คลังเตือนใครยังไม่มีพร้อมเพย์ให้รีบไปผูกบัญชีกับเลขบัตรประชาชนด่วน ทำได้ 3 ช่องทางคือผ่านสาขาธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม และโมบายแบงกิ้ง การันตีโอนเงินปุ๊บ ถอนออกมาใช้ได้ทันที

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้เตรียมการที่จะโอนเงินเข้าบัญชีผู้ได้รับสิทธิ์โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟสแรก 14.5 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการ ซึ่งได้กำหนดระยะเวลาการโอนเข้าสู่ระบบพร้อมเพย์ตามหมายเลขบัตรประชาชน โดยผู้พิการจะได้รับสิทธิ์ก่อน ดังนั้นในวันที่ 25 ก.ย. 2567 ผู้พิการและผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขหลังบัตรประชาชน เลข 0 จะได้รับการโอนเงินเข้า จากนั้นวันที่ 26 ก.ย. เป็นคิวของผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขหลังบัตรประชาชนเลข 1, 2, 3 ต่อมาวันที่ 27 ก.ย. เป็นผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขหลังบัตรประชาชน เลข 4, 5, 6, 7 และวันที่ 30 ก.ย. เป็นกลุ่มที่เลขหลังบัตรประชาชน เลข 8, 9

“การจัดวันโอนตั้งใจไม่ให้กระทบกับการจ่ายเงินเดือน และที่ข้ามไปจ่ายวันที่ 30 ก.ย. เพราะวันที่ 28-29 ก.ย. เป็นวันเสาร์-อาทิตย์ โดยจะจ่ายเงินได้วันละ 4-5 ล้านคน”

นายลวรณกล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่ 13.5 ล้านคน โดยมีคนที่ผูกบัญชีพร้อมเพย์ บัตรประชาชนเสร็จแล้วประมาณ 11 ล้านคน ส่วนที่ยังไม่ได้มีบัญชีพร้อมเพย์บัตรประชาชนมีจำนวนกว่า 2 ล้านคน จึงขอให้เร่งไปทำพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนให้เร็วที่สุด เพื่อให้สามารถรับเงินได้ตามกำหนด แต่หากทำไม่ทันจะต้องรอรับเงินในรอบถัดไป แต่ช้าสุดจะต้องไม่เกินสิ้นปีนี้ ไม่เช่นนั้นเงินจะถูกโอนกลับเข้าคืนรัฐ

สำหรับช่องทางในการผูกพร้อมเพย์นี้ สามารถทำได้โดย 3 ช่องทาง คือ 1.ไปติดต่อกับสาขาธนาคารที่มีบัญชีไว้ 2.ผ่านตู้เอทีเอ็ม 3.ผ่านโมบายแบงค์กิ้ง ส่วนการโอนเงินให้ผู้พิการ กรมบัญชีกลางมีบัญชีอยู่แล้ว ซึ่งจะโอนเข้าบัญชีตามกำหนดวันที่ 25 ก.ย.

“เมื่อมีการโอนเงินสดเข้าไปแล้ว ผู้ใช้สามารถถอนออกมาใช้ได้เลย ซึ่งมั่นใจว่า เม็ดเงินที่ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางกว่า 145,000 ล้านบาท ถือเป็นเงินก้อนใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เคยมีมา เมื่อรวมกับกองทุนวายุภักษ์ที่จะเปิดขายและถูกใช้เป็นกลไกเข้าไปกระตุ้นตลาดทุนอีกมากกว่าแสนล้าน จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจในปลายปีกลับมาคึกคักและเชื่อมั่นว่าจีดีพีทั้งปีจะโตได้ถึง 3%”

นายลวรณกล่าวว่า “ส่วนการดำเนินการในเฟส 2 ยืนยันเดินหน้าต่อ ซึ่งเมื่อจ่ายเงินให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนเฟสแรกแล้ว แรงกดดันจะลดลง และจะมีเวลาในการทำระบบให้ดีขึ้น ลดข้อกังวลสร้างความมั่นใจ”

ส่วนจะมีงบประมาณไว้ใช้สำหรับดำเนินการเฟส 2 หรือไม่นั้น รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณในปีงบ 68 จำนวน 180,000 ล้านบาทไว้แล้ว อย่างไรก็ดี ขึ้นอยู่กับการจัดสรรหลังจากแบ่งจำนวนผู้ที่มาลงทะเบียนในระบบไว้ 32 ล้านคน เมื่อหักกลุ่มผู้พิการ และผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้เงินเฟสแรกไปแล้ว จะเหลือกี่คนและจะจัดสรรการจ่ายเงินอย่างไร ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้

“ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ล้มการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้กับกลุ่มทั่วไป ส่วนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนนั้น สามารถลงทะเบียนผ่านสถาบันการเงินของรัฐได้เลย ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.2567”

ด้านนางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า พร้อม 100% ที่จะโอนเงินสด 10,000 บาท และมั่นใจว่าการโอนเงินจะไม่มีปัญหาเพราะมีการแบ่งรอบการโอนไว้แล้ว และจะโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์เท่านั้น.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่