ลุ้น! แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ปลุกความเชื่อมั่น

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ลุ้น! แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ปลุกความเชื่อมั่น

Date Time: 13 ก.ย. 2567 08:40 น.

Summary

  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทุกรายการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และต่ำสุดรอบ 13 เดือนนับตั้งแต่เดือน ส.ค.66 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ที่สำรวจจากความคิดเห็นภาคธุรกิจ สมาชิกหอการค้าไทย ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และต่ำสุดรอบ 11 เดือนนับจากเดือน ต.ค.66

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือน ส.ค.67 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทุกรายการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และต่ำสุดรอบ 13 เดือนนับตั้งแต่เดือน ส.ค.66 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ที่สำรวจจากความคิดเห็นภาคธุรกิจ สมาชิกหอการค้าไทย ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และต่ำสุดรอบ 11 เดือนนับจากเดือน ต.ค.66

ทั้งนี้ เพราะประชาชนและภาคธุรกิจกังวลสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน เนื่องจากมีการสำรวจความเห็นก่อนที่จะได้ตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นอกจากนี้ ยังกังวลเรื่องค่าครองชีพสูง เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า รายได้ไม่พอรายจ่าย ยังไม่เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจนของรัฐบาล ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทย รวมถึงกำไรและยอดขายของภาคธุรกิจที่ลดลง ภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง กระทบต่อกำลังซื้อประชาชน การเข้าไม่ถึงสินเชื่อของเอสเอ็มอี

สำหรับการที่ความเชื่อมั่นลดลง ทำให้คนไม่พร้อมใช้จ่าย ส่งผลให้ความเหมาะสมในการซื้อบ้าน รถยนต์ ท่องเที่ยวซึมตัวตามไปด้วย สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยยังมีสัญญาณชะลอตัว ทั้งๆที่ตามปกติ ใกล้ช่วงปีใหม่จะเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวแล้ว แต่หวังว่าตั้งแต่เดือน ก.ย.67 เป็นต้นไปที่รัฐบาลจะเริ่มแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนฟื้นขึ้นได้ และจะส่งผลให้ใช้จ่ายมากขึ้น กระตุ้นให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น

“การแจกเงินสดให้กับกลุ่มเปราะบางประมาณ 14.5 ล้านคนก่อน และใช้งบประมาณเกือบ 150,000 ล้านบาท จะทำให้คนใช้เงินทันที อย่างน้อยก็ 20-30% ของเงินทั้งหมด ซึ่งจะมีเงินสะพัดทั่วประเทศ และเข้าไปสู่ระบบเศรษฐกิจ แน่นอนความเชื่อมั่นผู้บริโภคน่าจะดีขึ้น แต่จะดีขึ้นแค่ไหน ต้องติดตามการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปลายเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ผลสัมฤทธิ์ของเงินดิจิทัลได้ระดับหนึ่ง”

อย่างไรก็ตาม ตลอดไตรมาส 4 ปีนี้ ไม่ได้มีเพียงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทำให้เศรษฐกิจไทยปรับขึ้นได้ ยังอยู่ที่นโยบายอื่นๆ ของรัฐบาลด้วย โดยเฉพาะการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ที่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ประกาศจะปรับขึ้นเป็นวันละ 400 บาทในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งหากรัฐบาลนี้ปรับขึ้นจริง ในจังหวะที่ภาคเอกชนยังไม่พร้อม ก็จะเป็นจุดเปราะบาง และเป็นตัวคานทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ คาดว่า ผลจากเงินดิจิทัลจะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตได้ 2.6-2.8% แต่หากไม่มีโครงการนี้ เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ 2.4-2.6%.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ