นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ 2567 รวมทั้งหมด 5 โครงการ วงเงินรวม 7,402 ล้านบาท ดังนี้
1.การจัดสรรงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นวงเงินรวม 2,289 ล้านบาท ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานนำไปพัฒนาแหล่งน้ำทั่วประเทศ 1,072 โครงการ หลังแหล่งน้ำต่างๆ ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมฉับพลัน อาคารเสียหาย รวมทั้งมีตะกอนดินอุดตันคลองส่งน้ำ จึงต้องนำงบประมาณไปปรับปรุงซ่อมแซมอาคารชลประทาน พร้อมทั้งขุดลอกตะกอนดิน กำจัดวัชพืช
2.การจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 3,017 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และภัยพิบัติ ของกระทรวงคมนาคม นำไปซ่อมแซมเส้นทางคมนาคม ของกรมทางหลวง รวม 207 รายการ ใน 26 จังหวัด และกรมทางหลวงชนบท รวม 101 รายการ ใน 30 จังหวัด
3.การจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ วงเงินรวม 1,214 ล้านบาท เพื่อให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (กระทรวง พม.) นำไปใช้เป็นเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดถึง 6 ปี หลังจากงบประมาณที่ขอรับการจัดสรรไว้เดิมไม่เพียงพอ จ่ายในเดือนกันยายน 2567 จึงเสนอมาของบกลางเพิ่มเติมเพื่อจัดสรรให้เด็กแรกเกิดครอบคลุม 2.28 ล้านคน
4.การจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินรวม 635 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล โดยนำไปใช้จัดซื้อระบบอุโมงค์เอกซเรย์รถแบบเคลื่อนที่ พร้อมยานพาหนะบรรทุกสำหรับเคลื่อนย้าย จำนวน 5 ชุด ของกองบัญชาการตรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อป้องกันการลักลอบและลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่ประเทศ และ 5.จัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินรวม 247 ล้านบาท เพื่อให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดทำโครงการเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือบุคลากรด้านการท่องเที่ยว จำนวน 100,000 คน.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่