เคาะงบ 3,500 ล้าน สมทบ “บัตรคนจน” ครม.อนุมัติ 344 ล้าน จ่ายส่วนลด

นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ 27 ส.ค.มีมติเห็นชอบอนุมัติงบประมาณ 3,500 ล้านบาท จากงบกลางวงเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเร่งด่วน พ.ศ.2567 เพื่อเป็นงบประมาณสมทบให้กับกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ที่จะใช้งบประมาณในส่วนนี้ไปจัดสรรให้กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยการจัดสรรงบกลางให้กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมจะทำให้มีงบประมาณที่จะจัดสรรให้กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีประชาชนได้สิทธิ์ประมาณ 14.9 ล้านคน โดยสามารถจัดสรรวงเงินได้ในเดือน ก.ย.และเพียงพอที่จะใช้ไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.2567 ก่อนที่จะมีการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากงบประมาณรายจ่ายปี 2568 ที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือน ต.ค.ปีนี้

ขณะที่ น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2567 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 344 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันมีภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำเสร็จสิ้นในช่วงปี 2565- 2566 และได้ออกฉายในโรงภาพยนตร์และช่องทางออนไลน์เรียบร้อยแล้ว 7 เรื่อง โดยได้นำเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาใช้จ่ายและสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทย 1,865 ล้านบาท ซึ่งกระจายรายได้ไปสู่ทีมงานและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ไม่น้อยกว่า 22,500 คน ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนสร้างผลกระทบในระบบเศรษฐกิจอัตรา 2.8 เท่า หรือประมาณ 5,222 ล้านบาท

โดยภาพยนตร์ทั้ง 7 เรื่องดังกล่าว ได้ผ่านการตรวจสอบเอกสารทางการเงินและได้รับอนุมัติเงินคืน 20% จากคณะกรรมการพิจารณาการคืนเงิน ประกอบด้วยภาพยนตร์ เรื่อง MEG 2 (สหราชอาณาจักร) 69 ล้านบาท The Blue (สหราชอาณาจักร) 75 ล้านบาท CI (สิงคโปร์) 35 ล้านบาท TSA (สหรัฐอเมริกา) 24 ล้านบาท The Bride (สหรัฐอเมริกา) 31 ล้านบาท ADRD (ญี่ปุ่น) 35 ล้านบาท Sympathizer (ฮ่องกง) 73 ล้านบาท โดยมาตรการ Cash Rebate 15-20% ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ม.ค. 2560 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีภาพยนตร์เข้าร่วมมาตรการดังกล่าวแล้ว 71 เรื่อง สร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของไทย 16,218 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้จ่ายเงินคืนแก่ผู้ผลิตภาพยนตร์ภายใต้มาตรการดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว 38 เรื่องรวมเป็นเงินจำนวน 1,056.69 ล้านบาท.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่