นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า จะเดินหน้าให้บรรลุวัตถุประสงค์ แต่จากการเปลี่ยนแปลงในขณะนี้ อาจปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และข้อวิพากษ์วิจารณ์เพื่อให้ทุกคนสบายใจ แต่ยังคงจุดมุ่งหมายเดิมคือเพิ่มกำลังซื้อของประชาชน ทำให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ และเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรต้องรอให้พรรคร่วมกับพรรครัฐบาล ซึ่งขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นทีมเดิม หรือทีมใหม่นั้น ไปตกลงกันก่อนที่จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
“ความชัดเจนทั้งหมดจะมีหลังจากที่โปรดเกล้าฯและถวายสัตย์ฯเรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องดำเนินการภายใน 15 วัน หลังแถลงนโยบายต่อสภาทั้งหมด ยืนยันว่าจะทำให้ตรงตามวัตถุประสงค์อย่างครบถ้วน ไม่ลดขนาดโครงการ แต่จะทำอย่างไรขอให้ฟังเรา”
นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า จากนั้นรัฐบาลก็เริ่มนับหนึ่งในการดำเนินการตามนโยบายที่บอกไว้ อะไรที่เราพูดกับประชาชนไว้ เราจะรักษาสัญญา อะไรที่เราทำได้ เราจะทำเต็มที่ พรรคเพื่อไทยตัดสินใจอย่างไร ไม่เคยทิ้ง ส่วนการจะเปลี่ยนรูปแบบอย่างไร ก็ต้องพิจารณากัน ขณะนี้ต้องเดินหน้าตามนี้ในทางปฏิบัติ ส่วนสิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์มา เราจะรับไปปรับ ขณะที่จะมีมาตรการเสริมอื่นๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่เรา ที่ต้องคิดอยู่แล้ว จะไปดูรายละเอียด จะทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้ประชาชนพอใจ
ทางด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวภายหลังปาฐกถาพิเศษ “ถอดรหัส...โอกาสเศรษฐกิจไทย” ในงานเดลินิวส์ ทอล์ก 2024 ว่า นโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ต้องรอการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะมีการสรุปความชัดเจนนโยบายดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และแพลตฟอร์มดิจิทัล ถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสมัยใหม่
“การแจกเงินดิจิทัลถือเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล เพราะทุกวันนี้ไปที่ไหน ใครๆก็พูดถึงเรื่องดิจิทัล ทำให้มีการศึกษาลงลึกในรายละเอียดของเรื่องดิจิทัล ช่วยเพิ่มความรู้ ความเข้าใจกันเพิ่มมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับดิจิทัล ที่ไม่ใช่เรื่องแจกเงินอย่างเดียว แต่สามารถใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจได้
นายพิชัยกล่าวถึงสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาแตะ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ว่า เป็นไปได้ที่ความเชื่อมั่นของตลาดมีเงินไหลเข้าภูมิภาคนี้มากขึ้น เงินบาทจะแข็งค่า หรืออ่อนค่า ยังอยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้ ไม่น่ากลัว เมื่อมีทางหนึ่งที่ได้เปรียบและเสียเปรียบ
นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายนโยบายการเงิน ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในขณะนี้ เกิดขึ้นจากทิศทางเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง จากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่ความชัดเจนทางการเมืองของไทยเป็นอีกประเด็นที่ทำให้เงินบาทปรับตัว ดีขึ้น โดยขณะนี้ทุกฝ่าย รวมทั้ง ธปท.จับตาทิศทางนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ว่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจในระยะต่อไปแตกต่างจากมาตรการเดิมหรือไม่ โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต เพราะหากเปลี่ยนวงเงิน หรือกลุ่มเป้าหมายผลต่อเศรษฐกิจก็จะเปลี่ยนแปลงไป.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่