นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 67 มีค่าดัชนีเท่ากับระดับ 39.6 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 67 ที่มีค่าดัชนีเท่ากับระดับ 39.2 สะท้อนว่าผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังคงมีความเชื่อมั่นในระดับเกณฑ์ต่ำ แม้รัฐบาลจะออกมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน และค่าจดจำนองเหลือประเภทละ 0.01% ให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในราคาไม่เกิน 7.00 ล้านบาท เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับคนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในวันโอนกรรมสิทธิ์ และมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำผ่านทางธนาคาร อาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ก็ไม่ช่วยกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯให้ฟื้นตัวขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดที่อยู่อาศัยยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยลบหลายด้าน เช่น 1.การยกเลิกการผ่อนคลายมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย 2.ภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงมีอัตราส่วนที่สูงกว่า 90% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สถาบันการเงินต้องเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อ 3.ดอกเบี้ยนโยบายยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 2.50% 4. เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า
นายวิชัยกล่าวต่อว่า สำหรับประเภทที่อยู่อาศัย ส่วนใหญ่ต้องการซื้อบ้านเดี่ยว ระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท รองลงมาคือ คอนโดมิเนียมราคา 2.01-3.00 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์มีความต้องการซื้อในราคา 2.01-3.00 ล้านบาท บ้านแฝดมีความต้องการซื้อราคา 3.01-5.00 ล้านบาทและอาคารพาณิชย์ ราคา 2.01-3.00 ล้านบาทมากที่สุด.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่