ห่วงสินค้าจีนตีตลาด! ครึ่งปี 67 ส่งออกอาหารไทย 8.5 แสนล้าน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ห่วงสินค้าจีนตีตลาด! ครึ่งปี 67 ส่งออกอาหารไทย 8.5 แสนล้าน

Date Time: 16 ส.ค. 2567 07:26 น.

Summary

  • สถาบันอาหาร-ส.อ.ท.-หอการค้าไทย ชี้ส่งออกอาหารไทยครึ่งแรกปี 67 โต 9.9% มูลค่า 8.5 แสนล้านบาท ลุ้นสิ้นปี 67 ฝ่าปัจจัยเสี่ยงสู่เป้า 1.65 ล้านล้านบาท โตทะลุ 8% สุดห่วงสินค้าจีนตีตลาด

Latest

ที่ยืนของ “ธุรกิจไทย” แคบลงทุกที ไทยขาดดุล “จีน” สูงขึ้นเรื่อยๆ นำเข้าสินค้า ผ่าน Shopee - Lazada

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าอาหารไทยช่วง 6 เดือนแรก ปี 67 มีมูลค่า 852,423 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากความ ต้องการสินค้าอาหารไทยในตลาดโลกที่สูงขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบหลักในการแปรรูปหลายรายการอ่อนตัวลง เช่น ราคาปลาทูน่าที่ลดลงส่งผลดีต่อปลาทูน่าแปรรูปและอาหารสัตว์เลี้ยง กลุ่มผู้ผลิตซอสได้ต้นทุนน้ำตาลและถั่วเหลืองราคาถูกลง ราคากากถั่วเหลืองและราคาข้าวโพดที่ลดลง เอื้อต่อผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุตสาหกรรมไก่ เป็นต้น

ส่วนแนวโน้มส่งออกอาหารไทยครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมีมูลค่า 797,568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.8% โดยการส่งออกไตรมาส 3-4 ปี 67 จะมีมูลค่า 395,536 ล้านบาท และ 402,032 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% และ 9.9% ตามลำดับ ส่งผลให้ทั้งปี 67 มีมูลค่า 1.65 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.8% จากปีก่อน ที่มีมูลค่า 1.51 ล้านล้านบาท มีปัจจัยหนุนหลักจากการที่ประเทศคู่ค้ากังวลเรื่องความมั่นคงทางอาหาร หลายประเทศขาดศักยภาพการผลิตเพื่อแข่งขันในตลาดโลก สินค้าอาหารไทยมีคุณภาพมาตรฐานและได้รับความเชื่อถือ ทั้งนี้ ไทยรั้ง อันดับ 12 ผู้ส่งออกอาหารของโลก ที่สำคัญยังสามารถรักษาดุลการค้าสินค้าอาหารกับจีนได้ โดยครึ่งปีแรกไทยได้ดุลการค้าจากจีนเกือบ 300,000 ล้านบาท โดยส่งออกสินค้าอาหารไปจีน 370,000 ล้านบาท และนำเข้าจากจีน 98,000 ล้านบาท

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต กล่าวว่า การส่งออกอาหารไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงจากต้นทุนค่าระวางเรือ ส่งผลให้ผู้นำเข้าชะลอการนำเข้า และมีการแข่งขันมากขึ้นจากสินค้าจีน ที่ผลิตสินค้าได้เหมือนหรือใกล้เคียงกับไทยด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า 30-40% รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศปลายทาง และความผันผวนของค่าเงินบาท

นายเจริญ แก้วสุกใส ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การส่งออกสินค้าอาหารของไทย ต้องปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อรับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน โดยเฉพาะการค้นหาและกลั่นกรองลูกค้าที่มีศักยภาพ รวมทั้งต้องมองตลาดในประเทศด้วยว่า มีสินค้าอะไรที่กำลังถูกแย่งส่วนแบ่งตลาดจากสินค้านำเข้า โดยเฉพาะจากจีนที่รุกหนักมาก ทั้งธุรกิจร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ที่เชื่อมโยงไปสู่สินค้าเกี่ยวเนื่อง เช่น เครื่องปรุงรส เครื่องดื่ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง ผักและผลไม้อบแห้ง ขนมขบเคี้ยวเป็นต้น ซึ่งตลาดอาหารภายในประเทศถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ทั้งกลุ่มชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงเป็นที่หมายปองของหลายประเทศ “ตอนนี้เศรษฐกิจจีนเปราะบาง ผู้ผลิตสินค้าจีนที่ผลิตได้จำนวนมาก จึงผลักดันสินค้าส่งออกมาในตลาดโลก เพื่อรักษา GDP ให้เติบโต 5% ทำให้มีสินค้าส่งออกมายังตลาดทั่วโลกรวมถึงไทย แต่ไทยยังสามารถขยับอันดับส่วนแบ่งตลาดอาหารในตลาดโลก ขึ้นจากเบอร์ 14 มาเป็นเบอร์ 12 ของโลกได้”

สำหรับการนำเข้าสินค้านั้น หน่วยงานด้านมาตรฐานความปลอดภัยของอาหาร โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป ควรเพิ่มมาตรการที่เข้มข้นในการกำกับดูแลสินค้านำเข้า เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค สำหรับส.อ.ท.ได้สแกนว่ามีโรงงานจีนย้ายมาตั้งโรงงานในไทยมากน้อยแค่ไหน และเราควรดำเนินมาตรการอย่างไรบ้าง.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ