“เศรษฐา” สั่งสู้ธุรกิจต่างชาติสีเทา เรียกตรวจคุณภาพ-ใบอนุญาต-ภาระภาษี

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

“เศรษฐา” สั่งสู้ธุรกิจต่างชาติสีเทา เรียกตรวจคุณภาพ-ใบอนุญาต-ภาระภาษี

Date Time: 14 ส.ค. 2567 06:44 น.

Summary

  • “เศรษฐา” สั่งปราบธุรกิจผิดกฎหมาย-สีเทาจากต่างประเทศ ที่เข้ามาทำให้สินค้าไทยเดือดร้อน สั่งตรวจคุณภาพ ใบอนุญาต การชำระภาษี มอบ “ภูมิธรรม” เป็นเจ้าภาพ แบะท่างัดมาตรการภาษีออกมาสู้

Latest

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ย้ำชัด ไทยไม่ลด "ดอกเบี้ย" ตามเฟด ชี้ "บาทแข็งค่า" ไม่ทุบทิศทางส่งออกไทย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายรัฐมนตรี แถลงหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้สั่งการกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เป็นเจ้าภาพ ประชุมหามาตรการป้องกันและปราบปรามธุรกิจขายสินค้าต่างประเทศที่ผิดกฎหมายเพื่อหาทางสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ให้ปรับตัวแข่งขันได้

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กำหนดมาตรการ เช่น 1.การตรวจสอบการจดทะเบียนธุรกิจและใบอนุญาตต่างๆ เพื่อจัดการกับธุรกิจผิดกฎหมายหรือสีเทาจากต่างประเทศ 2.การตรวจสอบสินค้าว่าเป็นไปตามมาตรฐาน เช่น มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และสำนักงานอาหารและยา (อย.) หรือไม่ 3.การตรวจสอบใบอนุญาตนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศและการชำระอากรขาเข้าของผู้ประกอบการ 4.การตรวจสอบใบอนุญาตการตั้งโรงงาน โดยกรมโรงงาน เพื่อนำเสนอต่อ ครม.ภายในเดือนนี้ เนื่องจากมีข้อร้องเรียนจากภาคเอกชน โดยเฉพาะเอสเอ็มอีเกี่ยวกับธุรกิจขายสินค้าทางออนไลน์และออฟไลน์จากต่างประเทศ ว่าเข้ามาค้าขายอย่างผิดปกติในไทย ส่งผลกระทบต่อโอกาสในการทำธุรกิจของคนไทย

ด้านนายภูมิธรรม โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Phumtham Wechayachai ถึงการเข้ามาของ TEMUแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ จากจีน ข้อความส่วนหนึ่งระบุ รัฐบาลกำลังเร่งออกมาตรการเพื่อช่วยปกป้องดูแลภาคธุรกิจไทย โดยจะพิจารณาให้ครอบคลุม เพื่อการสร้างความสมดุลระหว่างการคุ้มครองผู้บริโภค การสนับสนุนเอสเอ็มอี และการส่งเสริมการค้าเสรีและนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยให้การเข้ามาของแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซข้ามชาติ เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยในระยะยาว ทั้งนี้ สัปดาห์ก่อนกระทรวงพาณิชย์ได้จัดประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้อง พิจารณาผลกระทบจากอี-คอมเมิร์ซทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งต้องตรวจสอบว่าสินค้าได้มาตรฐานตามกฎหมายไทยหรือไม่ นอกจากนี้ยังได้พิจารณาถึงการจัดเก็บภาษีอี-คอมเมิร์ซด้วย พร้อมไปกับการส่งเสริมและสนับสนุนเอสเอ็มอี พัฒนาศักยภาพ สร้างช่องทางการตลาดใหม่ ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญยิ่งในการบุกตลาดใหญ่ เช่น จีน โดยจะจัดมหกรรม Live-Commerce ช่วง ก.ย.2567 เชิญอินฟลูเอนเซอร์จากจีนและอื่นๆ ที่เป็นตลาดเป้าหมาย คัดเลือกสินค้าไทย นำไป Live สดขายให้ผู้บริโภค โดยคัดเลือกสินค้าไทยที่คนจีนสนใจได้ 500 รายการสินค้า ตั้งเป้ารายได้กว่า 1,500 ล้านบาท.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ