อนาคตข้าวไทยเสี่ยงสูญพันธุ์ แห่ปลูกข้าวหอมพวง จี้รัฐพัฒนาพันธุ์ใหม่สนองตลาด

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

อนาคตข้าวไทยเสี่ยงสูญพันธุ์ แห่ปลูกข้าวหอมพวง จี้รัฐพัฒนาพันธุ์ใหม่สนองตลาด

Date Time: 13 ส.ค. 2567 07:13 น.

Summary

  • ผู้ส่งออกข้าวชี้ข้าวไทยพันธุ์พื้นเมืองเสี่ยงสูญพันธุ์ หลังชาวนาแห่ปลูกข้าวหอมพวงเวียดนาม และวางขายเกลื่อน อนาคตอาจถึงคิวข้าวหอมมะลิ จี้รัฐพัฒนาพันธุ์ข้าวพื้นนุ่ม ตอบโจทย์ผู้บริโภค แก้ปัญหาแหล่งน้ำ ถ้าไม่อยากให้อนาคตข้าวไทยมืดมน

Latest

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ย้ำชัด ไทยไม่ลด "ดอกเบี้ย" ตามเฟด ชี้ "บาทแข็งค่า" ไม่ทุบทิศทางส่งออกไทย

ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมข้าวไทยอยู่ในภาวะอันตราย และข้าวพื้นเมืองไทยหลายสายพันธุ์อาจหายไป เช่น ข้าวหอมปทุมธานี และข้าวกข 79 ที่ปัจจุบันผลผลิตลดลงมาก เพราะชาวนาปลูกข้าวพันธุ์พื้นนุ่มของเวียดนาม โดยเฉพาะข้าวหอมพวง หรือที่รู้จักกันว่าเป็นข้าวหอมมะลิเวียดนาม ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ เพราะตรงกับความต้องการของตลาดโลก ให้ผลผลิตต่อไร่สูง ระยะเวลาการปลูกสั้น และทนทานต่อโรค ศัตรูพืช

“ตอนนี้ข้าวที่คนไทยกิน หรือข้าวสารบรรจุถุงที่ขายในประเทศ ไม่ต่ำกว่า 80% เป็นข้าวหอมพวง ซึ่งผู้บริโภคไทยไม่รู้เลย เพราะชาวนาปลูกข้าวทั้ง 2 พันธุ์นี้มากขึ้น ทำให้ข้าวหอมปทุมธานีแทบจะหายไปแล้ว เนื่องจากให้ผลผลิตต่อไร่สูงมากถึง 1,200-1,500 กิโลกรัม (กก.) ส่วนข้าวหอมปทุมธานี 800-900 กก. อีกทั้งใช้เวลาปลูกสั้น 90-100 วัน ปลูกได้ทั้งปี ชาวนาขายได้ทั้งปี มีเงินใช้ทั้งปี ไม่เหมือนข้าวหอมปทุมธานี ที่ใช้เวลาปลูกนาน 4 เดือน อ่อนแอ ไม่ทนต่อศัตรูพืช หรือข้าวหอมมะลิที่ปลูกได้ปีละครั้ง”

นอกจากนี้ คาดว่าในระยะเวลาอันสั้นนี้ ชาวนาภาคอีสานจะปลูกข้าวหอมมะลิลดลงเช่นกัน เพราะปลูกข้าวขาวแทน เนื่องจากปลูกได้ปีละ 2 ครั้ง และขายได้ 2 ครั้ง ให้ผลผลิตต่อไร่มากกว่าที่ 600-800 กก. แต่หอมมะลิ เพียง 350-400 กก.ต่อไร่ โดยคาดว่าในอนาคตชาวนาไทยจะปลูกข้าวทุกสายพันธุ์ที่เวียดนามมี รวมถึงของจีน เพราะรัฐบาล 2 ประเทศมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมข้าว และพัฒนาสายพันธุ์ข้าวต่อเนื่อง ทำให้มีสายพันธุ์ดีๆที่หลากหลาย ตรงกับความต้องการของแต่ละตลาด ซึ่งจะยิ่งทำให้ข้าวสายพันธุ์พื้นเมืองของไทยหายไปอย่างน่าเสียดาย

ร.ต.ท.เจริญกล่าวว่า ต้องการให้กรมการข้าวเร่งพัฒนาข้าวสายพันธุ์ใหม่ๆที่ตรงกับความต้องการของตลาดให้มากขึ้น และให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น ต้านทานโรค เพื่อลดต้นทุนการผลิต ไม่เช่นนั้นข้าวไทยจะแพงกว่าคู่แข่ง และแข่งขันยาก อีกทั้งต้องการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แก้ไขกฎหมายที่อนุญาตให้นำเข้าพันธุ์ข้าวจากต่างประเทศ มาศึกษา วิจัย และพัฒนาร่วมกับสายพันธุ์ข้าวไทย และให้ชาวนาได้ทดลองปลูก เพราะกฎหมายนี้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพันธุ์ข้าวไทย รวมถึงพัฒนาแหล่งชลประทาน อย่าแจกแต่เงิน เพราะไม่มีประโยชน์ในการพัฒนาข้าวไทยเลย ถ้าไม่อยากให้อนาคตข้าวไทยมืดมน

“อีกไม่กี่ปี ไทยจะเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 3 ของโลก มีอินเดีย เป็นที่ 1 เวียดนาม ที่ 2 และจากนั้นจีนก็จะแซงเพราะไทยไม่มีโปรดักส์ใหม่ๆ ขายแต่ข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งปัจจุบัน ตลาดข้าวหอมในโลกมีมากถึง 5 ล้านตัน แต่เราขายได้ปีละราวๆ 1 ล้านตัน ที่เหลือเป็นของเวียดนาม และจีน ส่วนตลาดข้าวนึ่งก็หดตัว เพราะเสียตลาดให้อินเดีย ไทยจึงเหลือแต่ตลาดข้าวขาวพื้นแข็ง ที่ยังพอขายได้ที่อิรัก อินโดนีเซีย บางประเทศในแอฟริกา”.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ