ทีจีโชว์สภาพคล่อง 8 หมื่นล้าน มั่นใจออกจากแผนฟื้นฟูเข้าตลาดหุ้นปีหน้า

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (ทีจี) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 67 ว่า จากที่อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกกลับมาโตต่อเนื่อง ทำให้ผลการดำเนินงานของการบินไทยมีรายได้รวมกว่า 43,981 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ากว่า 17.7% ซึ่งถือว่ามีผลการดำเนินงานที่สูงกว่าคาดการณ์ สวนกระแสจากปกติที่ผลการดำเนินงานของไตรมาส 2 ของทุกปีจะมีปริมาณการเดินทางต่ำที่สุดของปี ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 314 ล้านบาท มีผู้โดยสารเดินทางรวมผ่านการบินไทย 3.81 ล้านคน และมีอัตราการบรรทุกปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยที่ 73.2% ส่วนผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 67 การบินไทยมีรายได้รวม 89,936 ล้านบาท มีกำไรสุทธิรวม 2,738 ล้านบาท

ซึ่งจากผลการดำเนินงานดังกล่าว ทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะสูงกว่าแน่นอน และสามารถทำรายได้ตามกำหนด ซึ่งเห็นได้จากยอดจองการเดินทางล่วงหน้าในไตรมาสที่ 3 และ ที่ 4 มาก เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซัน) จึงทำให้มั่นใจว่าภาพรวมของรายได้ทั้งปีจะยังอยู่ที่เป้าหมายที่เคยตั้งไว้ที่ 180,000 ล้านบาท ปริมาณคนเดินทางผ่านการบินภาพรวมทั้งปีกว่า 15 ล้านคน

นายปิยสวัสดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าของแผนฟื้นฟูกิจการนั้น ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 67 บริษัทฯ ได้มีการชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการไปแล้วรวม 4,644 ล้านบาท จากหนี้ที่ครบกำหนดชำระทั้งปี 13,022 ล้านบาท และในช่วงครึ่งปีหลังนี้ยังมีหนี้ที่ต้องชำระอีกประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ในกลุ่มต่างๆที่ครบกำหนดชำระตามแผนฟื้นฟูกำหนดและในระหว่างนี้บริษัทฯ จะต้องเร่งดำเนินการทำให้ทุนเป็นบวก โดยจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) สำหรับการปรับโครงสร้างทุนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ภายในเดือน ก.ย.67 และดำเนินการออกหุ้นเพิ่มทุนให้แล้วเสร็จภายในปี 67 เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับการบินไทย

นายปิยสวัสดิ์กล่าวย้ำว่า ดังนั้นจึงมั่นใจว่าการบินไทยจะสามารถยื่นออกจากแผนฟื้นฟูฯ และกลับเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้ในไตรมาสที่ 2 ปี 68 ขณะเดียวกันตอนนี้ยังพบว่าการบินไทยมีเงินสดสภาพคล่องในมือถึง 81,748 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,618 ล้านบาท จาก ณ วันที่ 31 ธ.ค.66 และยังมีแนวโน้มที่ดีในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเชื่อมั่นว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้การบินไทยออกจากแผนฟื้นฟู และยังมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงด้วย

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร การบินไทย กล่าวว่า ขณะนี้การบินไทยมีเครื่องบินประจำฝูงบินทั้งสิ้น 72 ลำ และจะมีการรับมอบเข้าฝูงในไตรมาส 4 นี้อีก 2 ลำ รวมเป็น 79 ลำ เพื่อมาทำการบินสร้างรายได้ ส่วนเครื่องบินที่ตามแผนฟื้นฟูจะต้องมีการขายออกไปรวมกว่า 40-50 ลำ นั้น ขณะนี้ได้มีผู้ซื้อแล้ว ซึ่งมูลค่ารวมการขายกว่า 2,000 ล้านบาท ส่วนแผนการจัดหาเครื่องบินใหม่ที่จะให้เข้ามาประจำฝูงบินนั้น ยังคงเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ระยะ 10 ปี ที่จะต้องจัดหาเครื่องบินเข้ามาอีก 45 ลำ และตามแผนในระยะ 10 ปี จะมีเครื่องบินรวมกว่า 140 ลำ เพื่อนำมาบินให้บริการในหลายๆเส้นทางที่มีความต้องการ

ด้านนายกรกฎ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ การบินไทย กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้กลับมาทำการบินสู่เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี และกรุงออสโล ราชอาณาจักรนอร์เวย์ เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเดินทาง และพัฒนาความร่วมมือกับสายการบินคูเวตแอร์เวย์สในรูปแบบเที่ยวบินรหัสร่วม (Codeshare) เชื่อมต่อเครือข่ายไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือและยุโรป.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่