เศรษฐกิจอีสาน น่าห่วง! ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 30 ปี หนี้ท่วม-แรงงานน้อย ลาวหนีทะลักเข้าไทย ดีหรือเสีย

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เศรษฐกิจอีสาน น่าห่วง! ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 30 ปี หนี้ท่วม-แรงงานน้อย ลาวหนีทะลักเข้าไทย ดีหรือเสีย

Date Time: 9 ส.ค. 2567 09:09 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • ISAN INSIGHT ม.ขอนแก่น เผย สถานการณ์เศรษฐกิจภาคอีสาน พบอยู่ในภาวะ GDP ขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี ยอดปิดโรงงานกระทบเลิกจ้าง 600 ตำแหน่ง ประชาชนหนี้ท่วม แรงงานขาด เพราะคนสูงวัยมากขึ้น ขณะ วิกฤติ สปป.ลาว กระทบยอดจับจ่ายพื้นที่ริมโขง แรงงานบางส่วนทะลักเข้าไทย ช่วยอุ้มบางธุรกิจในพื้นที่

Latest


ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วิถีชีวิตของคนอีสานมีความเชื่อมโยงกับภาคเกษตรกรรมที่มีรายได้ไม่แน่นอน ดังจะเห็นได้ว่า แรงงานอีสานส่วนใหญ่ จึงเคลื่อนย้ายออกไปทำงานนอกภูมิภาค

ตามข้อมูลของ แบงก์ชาติ ระบุไว้ว่า มีประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เข้ามาทำงานในภาคกลางประมาณ 2.7 ล้านคน (อยู่กรุงเทพฯ 1.2 ล้านคน) กระจายอยู่ในกลุ่ม ลูกจ้าง ภาคผลิต บริการ และก่อสร้าง เหลือแรงงานในภาคอีสานประมาณ 9.5 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มอาชีพอิสระถึง 70% 

อย่างไรก็ดีในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญ พบประชากรอีสานกลับคืนถิ่นมากถึง 6.5 แสนคน ก่อนหวนกลับไปทำงานในจังหวัดต่างๆ อีกครั้ง เมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นกลับมา 

ซึ่งนี่เองยังคงทำให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจของอีสานอ่อนแอ ตลาดแรงงานน่าห่วง แรงงานน้อย ขณะผู้สูงอายุมีมากขึ้น และภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น 

เศรษฐกิจอีสาน น่าห่วงสุดในรอบ 30 ปี 


ล่าสุด ISAN INSIGHT & OUTLOOK โครงการภายใต้คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ออกบทรายงานภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำเดือน ก.ค.2567 

โดย ระบุว่า เศรษฐกิจภาคอีสาน กำลังอยู่ในภาวะน่าห่วงที่สุดในรอบ 30 ปี ด้วยแรงกดดันจากหลายปัจจัย ใจความสำคัญคือ เมื่อเทียบ GDP หลังเกิดวิกฤติในแต่ละครั้ง รอบปีล่าสุด หลังวิกฤติโควิด อีสาน มี GDP ที่เติบโตต่ำลง เหลือเพียง 2.2% เท่านั้น 

ท่ามกลางปัญหาหนี้ครัวเรือนของคนในพื้นที่ และสถาบันการเงินระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ กระทบทั้งรายย่อยและกลุ่มผู้ประกอบการ ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนของอีสานหดตัวต่อเนื่อง 

อีสานอินไซต์ รายงานว่า เห็นการขยายตัวของเศรษฐกิจอีสานที่อยู่ในอัตราซึ่งลดลงต่อเนื่อง ตามช่วงเวลาการเกิดสถานการณ์เศรษฐกิจสำคัญในแต่ละครั้ง ตั้งแต่ช่วงปี 2538 สะท้อนถึงศักยภาพของเศรษฐกิจในภาพรวมโตต่ำกว่าคาดการณ์ 

  • ก่อนเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง +6.5% 
  • ก่อนเผชิญวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ +6.3% 
  • ก่อนการรัฐประหาร และจัดตั้งรัฐบาล คสช. +5.8%
  • ก่อนเผชิญการระบาดของโควิด-19 +2.8% 
  • ปัจจุบัน ช่วงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ +2.2% (ต่ำกว่าที่คาดการณ์)

ทุนโรงงานอีสานปิดตัวพุ่ง 902 ล้าน กระทบเลิกจ้างกว่า 600 ตำแหน่ง 

วิกฤติเศรษฐกิจครั้งล่าสุดได้ฉุดให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเกือบทั้งหมดของอีสานมีอัตราการขยายตัวที่ลดลงชัดเจน ซ้ำร้ายบางกิจกรรมธุรกิจ โดยเฉพาะภาคการค้าเผชิญแรงกดดันที่ทำให้ภาคธุรกิจชะลอตัว 

เจาะจำนวนปิดโรงงานในภาคอุตสาหกรรมของอีสาน ณ ครึ่งปีแรก 2567 (ม.ค.-มิ.ย.) แม้ปรับตัวลดลง แต่มูลค่าเงินทุนและจำนวนแรงงานของโรงงานที่ปิดกลับเพิ่มขึ้นอยู่ที่กว่า 902 ล้านบาท สะท้อนว่าโรงงานที่ปิดกิจการส่วนใหญ่เป็นโรงงานขนาดใหญ่ ซึ่งกระทบต่อจ้างงานในภาคอีสานกว่า 600 ตำแหน่ง 

“จำนวนโรงงานเปิดใหม่น้อยกว่าโรงงานปิดตัวนั้น คือ กลุ่มการผลิตวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง เนื่องจากความต้องการใช้ลดลงตามภาวะการก่อสร้างในอีสานที่ยังชะลอตัว”

ขณะภาคการท่องเที่ยวของอีสานนั้น ในข้อมูลชุดเดียวกันพบว่า อยู่ในทิศทางบวก อีสานฟื้นตัวได้ดีทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะเมืองรองที่อยู่ใกล้กับชายแดน สปป.ลาว และริมแม่น้ำโขง จากการท่องเที่ยวสายมู พญานาค ที่นิยมเพิ่มมากขึ้นในจังหวัดริมแม่น้ำโขง จึงทำให้มีการฟื้นตัวได้ดีกว่าจังหวัดเมืองหลัก 

อย่างไรก็ดีหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดการเติบโตของอีสาน คือ การถดถอยของเศรษฐกิจเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว เช่นกัน ซึ่งส่งผลให้การบริโภคสินค้าและบริการจากอีสานลดน้อยลง 

แรงงานขาด ต้องพึ่ง แรงงานต่างด้าว 

อีสานยังเผชิญกับความเสี่ยงด้านโครงสร้างของตลาดแรงงานที่กำลังแรงงานเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงต่อเนื่อง และปรับตัวลดลง ในขณะที่ผู้สูงอายุยังปรับตัวเพิ่มขึ้น สร้างความท้าทายต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ 

อัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงาน

  • ก่อนเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง 52% 
  • การฟื้นตัวของเศรษฐกิจปัจจุบัน 43% (ต่ำกว่าที่คาดการณ์)

อีกทั้งยังพบว่าอีสานกำลังเผชิญกับสถานการณ์หนี้สินที่กลับมาท่วม GDP อีกครั้ง หลังจากครั้งล่าสุดตั้งแต่วิกฤติปี 2540 ซึ่งสะท้อนได้จากภาคการเงินที่น่าเป็นห่วง เพราะเพื่อชะลอปัญหาหนี้ท่วม ธนาคารจึงเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อใหม่ ทำให้การหมุนเวียนของเงินในระบบต่ำลง 

ทั้งนี้ประเด็นที่น่าจับตามอง คือ ภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของลาวที่มีผลโดยตรงกับภาคอีสาน พบว่าขณะนี้แรงงานลาวข้ามฝั่งเข้ามาทำงานในภาคอีสานของไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพื่อหางานที่มีรายได้สูงกว่า สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาเศรษฐกิจของลาวที่ยังไม่สามารถฟิ้นตัวได้เท่าก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 

โดยการที่ไทยรับแรงงานลาวเข้ามาทำงานในภาคส่วนงานที่คนไทยไม่นิยมทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผลิตและจำหน่ายอาหาร งานบริการ งานบ้าน และการเกษตรนั้น อาจเป็ยนการช่วยลดต้นทุนการผลิตและบริการ ทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น และเติมเต็มช่องว่างในตลาดแรงงานไทยที่ไม่อยากทำงานในบางประเภทได้. 

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์