รอลุ้นพายุหมุน “ดิจิทัลวอลเล็ต”

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

รอลุ้นพายุหมุน “ดิจิทัลวอลเล็ต”

Date Time: 6 ส.ค. 2567 05:16 น.

Latest

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ย้ำชัด ไทยไม่ลด "ดอกเบี้ย" ตามเฟด ชี้ "บาทแข็งค่า" ไม่ทุบทิศทางส่งออกไทย

ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งตามคาด สำหรับโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งคงต้องลุ้นจำนวนคนที่มาลงทะเบียนว่าจะเป็นไปเป้าที่รัฐบาลตั้งวงเงินเบื้องต้น 45 ล้านคนหรือไม่ หรือจะทะลุไปมากกว่าที่รัฐบาลคาด

โดยสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนสนใจ “ดิจิทัลวอลเล็ต” คึกคักขึ้นมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็เพราะรัฐบาลได้อนุญาตให้ย้ายทะเบียนบ้านจากต่างจังหวัดให้มาเป็นที่อยู่ปัจจุบันได้ แต่จะต้องย้ายก่อนลงทะเบียนเข้าโครงการอย่างน้อย 1 วัน ซึ่งทำให้คนที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัดไกลๆ แต่ตัวมาทำงานที่กรุงเทพฯหรือหัวเมืองใหญ่ๆ ไม่ต้องเสียการเสียงาน เสียค่าเดินทางไปใช้เงินหมื่นในต่างจังหวัด แต่สามารถที่จะใช้จ่ายได้ในพื้นที่ที่ย้ายทะเบียนบ้านมาได้

แม้จะยุ่งยากไปบ้าง แต่เท่าที่ได้ฟังจากหลายๆคน ถือว่า “ดีกว่าไม่ได้เลย” เพราะก่อนหน้านี้ จากการคุยกับแรงงานข้ามถิ่นจำนวนหนึ่ง เห็นว่าจากประเด็นการจำกัดพื้นที่ใช้จ่ายนี้ เป็นหนึ่งในประเด็นหลัก ที่ทำให้ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ตรงใจคนทั่วไปเท่ากับโครงการกระตุ้นการใช้จ่ายก่อนๆของรัฐบาล

แต่ต้องยอมรับว่า แม้จะอนุญาตให้ย้ายทะเบียนบ้านได้ แต่ก็มีจะคนจำนวนหนึ่งที่อาจจะไม่ได้ดำเนินการ และส่งผลให้ใช้จ่ายเงินดิจิทัลไม่ได้ หรือใช้ได้ไม่หมด เพราะมีระยะเวลา เงื่อนไขการซื้อ รวมทั้งรายการสินค้าที่จำกัด

นอกจากนั้น ยังมีการตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องเงื่อนไขของสินค้าที่ซื้อได้ ที่อาจจะส่งผลให้การส่งผ่านของเงินดิจิทัลจากมือแรกไปยังมือต่อๆไป ให้ไปได้ไม่เร็วหรือแรง จนกลายเป็นพายุหมุนอย่างที่รัฐบาลคาด

เนื่องจากนักเศรษฐศาสตร์มองว่า คนจำนวนหนึ่งเมื่อได้รับเงินดิจิทัลก็อยากจะใช้จ่ายสำหรับสินค้าที่ตามปกติไม่ได้ซื้อ หรือไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าในภาคบริการ เช่น ตัดผม ทำสีผม ทำเล็บ สปา หรือสินค้าบริการอื่นๆ รวมทั้งในขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะมีมากน้อยแค่ไหน ทานอาหารนอกบ้านในร้านอาหารตามห้าง จะสามารถใช้เงินดิจิทัลจ่ายได้หรือไม่

ทำให้แม้สุดท้ายคนจะใช้จ่ายเงินดิจิทัลจนหมด 10,000 บาท แต่อาจไม่ได้หมายความว่า จะมีเงินใหม่เข้าระบบเต็มวงเงินที่รัฐบาลตั้งไว้ 450,000 ล้านบาท ในรอบแรก ขณะที่ยังมีการตั้งข้อสังเกตที่แตกต่างกันถึงตัวทวีคูณการหมุนของเงินในรอบที่ 2 และ 3 เพราะบางค่ายมองว่าทั้งโครงการจะช่วยให้เศรษฐกิจโตได้ไม่ถึง 1% เท่านั้น

ทั้งนี้ จากประสบการณ์ในทางเศรษฐศาสตร์ เหรียญมักจะมีสองด้าน ผลของมาตรการไม่ว่าจะเป็นมาตรการใดก็สามารถออกได้ 2 ทาง ทั้งดีกว่า และแย่กว่าคาด ดังนั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผู้บริหารโครงการจะต้องติดตามผลของมาตรการ ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และปรับเปลี่ยนเงื่อนไขได้ทันทีเพื่อผลสัมฤทธิ์ที่สูงสุด เช่นเดียวกับกรณีกับการให้ย้ายทะเบียนบ้านเพื่อเข้าโครงการได้

เช่น หากเมื่อเริ่มใช้จ่ายแล้ว เงินยังออกไม่ได้ตามที่คาดหวัง ในช่วง 1-2 เดือนสุดท้ายของโครงการอาจจะมีการปรับพื้นที่ที่สามารถใช้เงินดิจิทัลได้ทุกพื้นที่ หรือปรับเงื่อนไขรายการสินค้าที่สามารถซื้อได้ เพื่อให้มีเงินใหม่ไหลเข้าระบบไปตามที่คาด และหมุนได้หลายต่อหลายครั้ง สร้าง “พายุหมุน” ทางเศรษฐกิจไทยได้จริงๆ

เพราะหาก “ตั้งธง” ที่ประโยชน์ของคนไทยเป็นหลัก ก็ไม่ต้องยึดติดทิฐิมานะใดๆ.

มิสเตอร์พี

คลิกอ่าน "กระจก 8 หน้า" เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ