จับตาแถลงโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” โดยวันนี้ (24 ก.ค. 67) มีการแถลงข่าวรายละเอียดเงื่อนไขของผู้ที่สามารถเข้าโครงการ วันลงทะเบียนว่า สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ในวันที่ 1 สิงหาคม ถึง 15 กันยายนนี้ เคาะอายุ 16 ปี รายได้ไม่เกินปีละ 8.4 แสนบาท และใช้งบทั้งหมด 4.5 แสนล้านบาท
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ต่างมีมุมมองเชิงบวกต่อโครงการดังกล่าว โดยคาดหวังว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะช่วยเข้ามากระตุ้นกำลังซื้อ หนุนตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะหุ้นค้าปลีกได้ พร้อมคาดโครงการดังกล่าวมีโอกาสออกมาในช่วงไตรมาส 4/67 ถึงไตรมาส 1/68
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แม้จะยังเห็นสัญญาณของความไม่พร้อมให้หลายๆ ส่วน อาทิ งบประมาณโครงการรอรัฐสภาพิจารณา รวมถึงระบบชำระเงิน ที่ยังไม่เปิดประมูล เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามยังคงเห็นความตั้งใจของรัฐบาลในการเดินหน้าโครงการต่อเนื่อง
โดย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าจะเริ่มแจกเงินดิจิทัลในเดือน ต.ค.นี้ ขณะที่กำหนดการนัดหมายแถลงความชัดเจนรายละเอียดโครงการ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดวันนี้
โดยจะมีการแถลงทั้งหมด 3 รอบ ดังนี้
อย่างไรก็ตาม การชี้แจงรายละเอียดโครงการดิจิทัลวอลเล็ต สะท้อนการเดินหน้านโยบายต่อเนื่อง มองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, CPAXT และ BJC
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า วันนี้แถลงใหญ่ “ดิจิทัลวอลเล็ต” รอชี้แจงรายการสินค้าต้องห้าม ด้านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผย ร้านสะดวกซื้อ 7-11 คาดเข้าร่วมโครงการด้วย
ขณะเดียวกัน หากสินค้าต้องห้ามเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ มือถือสมาร์ทโฟน กระทบต่อ COM7, SYNEX, SIS, SPVI, CPW, ADVANC, TRUE, HMPRO แต่จะเพิ่มโอกาสกลุ่มอุปโภคและบริโภค ตัวหลักๆ คือ CPALL
ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) ระบุว่า มองการแถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของกระทรวงการคลัง คาดจะมีคำชี้แจงเกี่ยวกับงบประมาณและแหล่งที่มาของเงิน เรามองเป็นความชัดเจนของโครงการดังกล่าวมากขึ้น ทำให้เราคาดว่ามาตรการดังกล่าว มีโอกาสออกมาได้ในช่วงไตรมาส 4/67 ถึงไตรมาส 1/68 ตามที่รัฐบาลส่งสัญญาณไว้ก่อนหน้า
พร้อมกันนี้ คาดเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, CPAXT และ CRC ทั้งนี้ ยังคงมองกลยุทธ์การเลือกเล่นหุ้นรายตัวยังเป็นกลยุทธ์ที่มีความได้เปรียบอยู่สำหรับตลาดหุ้นไทย
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้