รถไฟสีส้มเพิ่มผู้โดยสาร 80% BEM จับมือ CK คิกออฟ New S-Curve

BEM ลงนามจ้าง ช.การช่าง สร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตกช่วง "บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ" พร้อมติดตั้งระบบรถไฟฟ้ามูลค่า 1.2 แสนล้าน เผยการได้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นการเติบโตใหม่หรือ New S-Curve ของ BEM เพิ่มผู้โดยสาร 80% เชื่อมสู่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทันที เชื่อมั่นสายสีส้มฝั่งตะวันออก "ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี" เปิดปลายปี 70 เปิดตลอดเส้นทางกลางปี 73

นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้า กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมอบความไว้วางใจให้บริษัทเป็นผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) วงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้นกว่า 140,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้บริษัทได้ลงนามสัญญาจ้าง บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)
หรือ CK ให้เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และจัดหาพร้อมติดตั้งระบบรถไฟฟ้าสำหรับทั้งโครงการ

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย แล้วเสร็จภายใน 6 ปี เปิดให้บริการในช่วงกลางปี 73 ส่วนช่วงตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรีนั้น แล้วเสร็จภายใน 3 ปี 6 เดือน ซึ่งมั่นใจว่าจะเปิดให้บริการส่วนนี้ได้ภายในปลายปี 70 เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 71

นายสมบัติกล่าวต่อว่า ในปีนี้ถือเป็นปีที่ดีของ BEM มีกำไรเติบโตจากการบริหารโครงการสัมปทานที่มีอยู่ทั้งรถไฟฟ้าและทางพิเศษ หลังจากกำไรที่เคยลดลงไปเมื่อช่วงโควิด-19 ตอนนี้กลับคืนมาแล้ว และยังทำกำไร New High ในทุกๆปี จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และต้นทุนทางการเงินที่อยู่ในระดับต่ำ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การได้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มถือเป็น New S-Curve ให้กับ BEM ช่วยเพิ่มความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง หนุนรายได้ให้กับสัมปทานตัวเดิมอย่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เพราะจะส่งผลให้ผู้ใช้บริการ เข้ามาในระบบเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่เปิดการเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตะวันออกนั้น จะมีผู้โดยสารประมาณ 80% เชื่อมเข้าสู่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทันที อีกทั้งยังทำให้เกิดการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับขนาดของธุรกิจ (Economy of Scale) และทำให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ด้านนายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM กล่าวว่า ในส่วนของการจัดหาติดตั้งระบบรถไฟฟ้านั้น อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ผลิตเพื่อสั่งซื้อรถไฟฟ้าแบบลอตใหญ่รวม 53 ขบวน แบ่งเป็นรถไฟฟ้าที่ใช้ในสายสีส้ม 32 ขบวน นอกจากนี้ จะจัดหารถไฟฟ้าสำหรับบริการในโครงการสายสีน้ำเงินเพิ่มเติมอีก 21 ขบวน ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม จะใช้ ระบบรถไฟฟ้าของประเทศไหนนั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือนนี้

สำหรับเงินลงทุนรวมทั้งสิ้นกว่า 140,000 ล้านบาทนั้น BEM ได้เตรียมเงินกู้วงเงิน 120,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้สำหรับงานโยธา 90,000 ล้านบาท และงานระบบรถไฟฟ้า 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารในปีแรกของการให้บริการช่วงตะวันออก จะมี 120,000 คน/วัน และเมื่อเปิดตลอดเส้นทางคาดจะมี 300,000 คน/วัน
ในส่วนของค่าโดยสารนั้น จะอยู่ที่ 17-62 บาท ซึ่งในระยะเวลา 10 ปีแรก จะมีโปรโมชันโครงสร้างอัตราค่าโดยสาร เริ่มต้นที่ 17-44 บาท และปรับขึ้นทุก 2 ปี ตามอัตราดัชนีผู้บริโภค (CPI) ก่อนที่จะกลับไปใช้อัตราค่าโดยสารตามสัญญาต่อไป ขณะที่นโยบายตั๋วร่วมนั้น BEM ให้ความร่วมมือ ส่วนเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ถือเป็นเรื่องที่ประชาชนได้ ประโยชน์ BEM ก็พร้อมให้ความร่วมมือ.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่