นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อการจำหน่ายหุ้นของกระทรวงการคลัง ได้มีความเห็นที่จะเสนอขายหุ้นที่กระทรวงการคลังถือนอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เนื่องจากมีแต่ค่าใช้จ่ายและไม่สามารถสร้างรายได้เพิ่มให้รัฐ โดยกระทรวงการคลังจะพิจารณาแต่ละบริษัท จากปัจจุบันมีหุ้นที่กระทรวงการคลังถือนอกตลาดหลักทรัพย์ราว 25 บริษัท มูลค่ารวมประมาณ 20,000 ล้านบาท
“คณะกรรมการจะต้องพิจารณาความเหมาะสมในการจำหน่ายหุ้น โดยนำปัญหาและอุปสรรคของการขายหุ้นในครั้งก่อนมาปรับปรุงการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเร็วที่สุดคาดว่าน่าจะเสนอต่อกระทรวงการคลังพิจารณาภายในสิ้นปีนี้”
ทั้งนี้ ปัจจุบันหลักทรัพย์ที่คลังถือครองทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ ไม่นับรวมรัฐวิสาหกิจมี 117 หลักทรัพย์ แบ่งเป็นหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 33 หลักทรัพย์ ไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ 41 แห่ง และอีก 41 แห่งเป็นหลักทรัพย์ที่ได้มาโดยนิติเหตุ มูลค่ารวมอยู่ที่เกือบ 400,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นของกองทุนวายุภักษ์ 340,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นหลักทรัพย์อื่นๆ
ส่วนรายได้ที่รัฐวิสาหกิจเพื่อนำส่งช่วง 9 เดือน (ต.ค.66-มิ.ย.67) มีทั้งสิ้น 156,436 ล้านบาท คิดเป็น 89% ของเป้าหมายทั้งปีอยู่ที่ 175,000 ล้านบาท 5 อันดับแรกที่นำส่งรายได้เข้าแผ่นดินสูงสุด ได้แก่ 1.สํานักงานสลากกินแบ่งฯ 36,048 ล้านบาท 2.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 29,198 ล้านบาท 3.ธนาคารออมสิน 23,529 ล้านบาท 4.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 20,841 ล้านบาท 5.ธนาคารอาคาร สงเคราะห์ 9,681 ล้านบาท.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่