นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) เผยว่า ขณะนี้ กองทุน กยศ.ได้คำนวณยอดหนี้ใหม่ตาม พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาปี 66 (ฉบับแก้ไข)มีผลบังคับใช้ ที่คิดดอกเบี้ย 1% ต่อปี และค่าปรับ 0.5% ต่อปี พบว่า มีผู้กู้ยืมได้รับประโยชน์จากการคำนวณยอดหนี้ใหม่ 2.98 ล้านราย ภาระหนี้ลดลง 56,326 ล้านบาท โดยผู้กู้บางรายมียอดหนี้ลดลง บางรายสามารถปิดบัญชีได้ และบางรายได้รับเงินคืน ทั้งนี้ ตรวจสอบยอดหนี้ของตัวเองได้ที่ www.studentloan.or.th ตั้งแต่ 1 ส.ค.67 หากผู้กู้รายใดยื่นปรับโครงสร้างหนี้ และทำสัญญาใหม่กับ กยศ. จะเป็นผลดีต่อผู้ค้ำประกันให้พ้นจากความรับผิด แม้กฎหมายใหม่จะไม่เอาผิดผู้ค้ำประกันแล้วก็ตาม แต่ยังมีชื่อเป็นผู้ค้ำประกันอยู่ ดังนั้น ผู้ค้ำประกันต้องผลักดันให้ผู้กู้เงิน กยศ.เข้าสู่การปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อปลดภาระค้ำประกัน
“กยศ.ได้ชะลอการฟ้องคดี ขยายเวลาบังคับคดีและงดขายทอดตลาด ดังนั้นขอให้ลูกหนี้ กยศ.เช็กยอดหนี้ตัวเองแล้วมายื่นปรับโครงสร้างหนี้กับ กยศ.เพื่อมีเงินหมุนเวียนไปให้รุ่นน้องถัดไป โดยงบปี 68 กยศ.ได้ยื่นนำเงินมาหมุนเวียนในกองทุน 19,000 ล้านบาท แต่ได้รับอนุมัติ 8,000 ล้านบาท ส่วนฐานะกองทุนฯมีเงินสด 10,000 ล้านบาท สามารถปล่อยกู้ให้นักศึกษาได้ต่อเนื่อง ปีการศึกษา67ได้เตรียมเงินปล่อยกู้ 48,000 ล้านบาท คนที่จะขอกู้เพื่อ เรียนต่อ หากยื่นเอกสารครบจะได้รับอนุมัติให้กู้เงินทันทีตามนโยบาย.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่