บทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยล่าสุด โดยวิจัยกรุงศรี ระบุว่า ขณะนี้การบริโภคของภาคเอกชน หรือ ครัวเรือนไทย มีสัญญาณชะลอตัว โดยวัดจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิถุนายนลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แล้ว ลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน แตะ 58.9 ซึ่งต่ำจาก 60.8 ในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลหลายปัจจัย ได้แก่
“ใจความสำคัญ คือ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 สะท้อนถึงแรงส่งการบริโภคภาคเอกชนที่แผ่วลง หลังจากที่เติบโตค่อนข้างสูงในไตรมาสแรก”
ทั้งนี้ วิจัยกรุงศรี วิเคราะห์ต่อว่า ต้องจับตาในช่วงที่เหลือของปีถึงทิศทางข้างหน้า แม้ยังมีปัจจัยบวกช่วยหนุนการบริโภค เช่น การเติบโตของภาคท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านการท่องเที่ยวเมืองรอง, รายได้เกษตรกรได้รับผลกระทบน้อยลงหลังจากผ่านพ้นภาวะภัยแล้ง และมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายสำหรับกลุ่มเปราะบาง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นกับดักสูงสุดต่อความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอย หากแต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งข้อมูลล่าสุดจาก ธปท. ณ สิ้นไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 16.37 ล้านล้านบาท หรือ 90.8% ของ GDP
นอกจากนี้ ธปท. ชี้ว่า 1 ใน 3 เป็นหนี้ที่ไม่สร้างรายได้ หรือเป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลค่อนข้างสูง จึงทำให้การแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนทำได้ยาก และต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก ประกอบกับมีแรงงานราว 9 แสนคนอยู่ในภาคการผลิตที่เผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้างดังกล่าว
ส่วนปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้าอย่างโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นั้นอาจยังคงต้องติดตามรายละเอียดต่อไป สำหรับกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 หลังล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรมีการพิจารณาวาระที่ 1 แล้วในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยกำหนดกรอบวงเงินรวมที่ 3.75 ล้านล้านบาท และเป็นงบขาดดุลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8.65 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น -4.5% ของ GDP
ส่วนของแหล่งเงินที่มาจากงบฯการบริหารจัดการวงเงิน 1.323 แสนล้านบาท นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ต้องติดตามเพราะยังขาดรายละเอียดและความชัดเจน สำหรับไทม์ไลน์สำคัญของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในเดือนนี้ วันที่ 24 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรีจะแถลงรายละเอียด และวันที่ 30 กรกฎาคม มีแผนนำเข้าสู่การประชุมของคณะรัฐมนตรี.
ที่มา : วิจัยกรุงศรี
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney