วันนี้ (15 ก.ค. 2567) หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet (ดิจิทัลวอลเล็ต) ครั้งที่ 4/2567 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี อัปเดตความคืบหน้าผ่าน X (ทวิตเตอร์) บัญชี Srettha Thavisin ว่า
"ดิจิทัลวอลเล็ตพร้อม เปิดลงทะเบียน 1 ส.ค. นี้ ครับ การประชุมวันนี้ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดลงทะเบียน และการดำเนินการในภาพรวมที่จะรองรับการใช้งานของประชาชนและร้านค้า โดยมีการมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ รวมไปถึงการลงรายละเอียดเงื่อนไขของการรับสิทธิ์ และมาตรการป้องกันการทุจริต การเรียกเงินคืนให้ชัดเจนขึ้นครับ
โครงการดิจิทัลวอลเล็ต คือ โครงการใหญ่ของภาครัฐที่จะเติมเงินกระเป๋าพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ และระบบเศรษฐกิจในภาพรวม เพื่อความละเอียดรอบคอบทั้งทางกฎหมาย และทางเทคนิค โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ทำให้ใช้เวลาดำเนินการมากหน่อย แต่พี่น้องไม่ต้องคอยเก้อแน่นอนครับ"
สำหรับประเด็นการเปลี่ยนแหล่งเงินที่ใช้ในโครงการ ไม่ใช้วงเงินตามมาตรา 28 ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แล้ว จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงสร้างแหล่งที่มาของเงินใหม่ ภายใต้กรอบเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567-2568 พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ลดขนาดโครงการยังเป็น 50 ล้านคนเหมือนเดิม เนื่องจากการดำเนินโครงการของรัฐบาล ในอดีตส่วนใหญ่ จะพบว่ามีผู้มาลงทะเบียนไม่เกิน 90% แต่หากมีคนลงทะเบียนมากกว่า หรือน้อยกว่าก็จะใช้กลไกบริหารงบประมาณ เพื่อให้มีเงินเพียงพอในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ด้านเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ชี้แจงว่า สาเหตุที่รัฐบาลไม่ได้มีปัญหาเรื่องเพดานเรื่องงบประมาณมาตรา 28 แต่เป็นของข้อจำกัดด้านกฎหมาย ที่หากมีการใช้เงิน ธ.ก.ส.จะต้องมีการตีความข้อกฎหมายใหม่
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดของไทม์ไลน์ วันเปิด-ปิดลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตที่ชัดเจน ได้มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับฯ กำหนดกรอบเวลาของวันเริ่ม และวันปิดลงทะเบียนอีกครั้ง และจะแถลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 ก.ค.2567 นี้
ทั้งนี้จุลพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากร้านค้าหรือประชาชน เคยกระทำความผิด ทุจริตในโครงการรัฐ โครงการใดโครงการหนึ่งมาก่อน หรือถูกฟ้องร้องเรียกเงินคืนจะถูกตัดสิทธิออกจากโครงการทันที เพื่อป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ
ร้านเสริมสวยสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และมือถือ ที่คณะอนุกรรมการ เล็งเพิ่มเป็นสินค้าที่ไม่เข้าร่วมโครงการ ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นผู้จัดทำยัง ไม่ได้ข้อสรุป แต่มีโอกาสที่จะจัดอยู่ใน Negative List รวมถึงที่ประชุมบอร์ดดิจิทัลชุดใหญ่ได้กล่าวถึงกลุ่มอาวุธปืน อาวุธยุทโธปกรณ์ ให้กระทรวงพาณิชย์นำไปพิจารณาด้วย
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney