นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ปัจจุบันไทยมีปัญหาประชาชนเข้าสู่วัยเกษียณ แต่ไร้เงินเก็บ ปัญหานี้จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็วของไทย และปัญหานี้แก้ไม่ได้ด้วยการอัดงบประมาณในรูปแบบเบี้ยคนชราจำนวนสูงๆ ซึ่งในที่สุดแล้วระบบงบประมาณ ไม่มีทางรับไหว
ทั้งนี้ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว กระทรวงการคลังกำลังพิจารณานโยบาย “สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ” หรืออาจเรียกสั้นๆว่า “สลากเกษียณ” หรืออย่างไม่เป็นทางการว่า “หวยเกษียณ” ซึ่งเป็นนวัตกรรมเชิงนโยบายที่รวมเอาลักษณะการชอบเสี่ยงดวงของคนไทยมาเป็นแรงจูงใจในการเก็บออมที่สามารถถอนเงินที่ซื้อสลากทั้งหมดออกมาได้ตอนเกษียณ (อายุ 60 ปี)
“ปัจจุบันการใช้งบประมาณสำหรับดูแลเบี้ยชราสูงถึงปีละหลายแสนล้านบาท แต่หวยเกษียณดังกล่าวใช้เงินงบประมาณมาดำเนินการ เฉลี่ยใช้งบเพียงสัปดาห์ละ 15 ล้านบาท คิดเป็นเดือนละ 60 ล้านบาท หรือปีละ 700 ล้านบาทเท่านั้น และขั้นตอนในการดำเนินการสามารถทำได้ด้วยการแก้ไขกฎหมายกองทุนการออมแห่งชาติเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถเริ่มได้ในปี 2568” โดยหวยเกษียณมีรายละเอียดเบื้องต้น (สามารถเปลี่ยนได้ภายหลัง) ดังนี้
1.) กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ออกสลากขูดแบบดิจิทัล ใบละ 50 บาท เพื่อขายให้กับสมาชิก กอช. ผู้ประกันตน ม. 40 และแรงงานนอกระบบ (กลุ่มเป้าหมายจะเพิ่มเติมภายหลัง) ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน
2.) สามารถซื้อสลากได้ทุกวัน แต่ออกรางวัลทุกวันศุกร์เวลา 17.00 น. ผู้ถูกรางวัลจะได้เงินรางวัลทันที โดยที่เงินค่าซื้อสลากถูกเก็บเป็นเงินออม แม้ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ก็ตาม
3.รางวัลของ “ทุกวันศุกร์” กำหนดดังนี้ (อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม) 3.1. รางวัลที่ 1 จำนวน 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล และ 3.2.รางวัลที่ 2 จำนวน 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล
4. เงินค่าซื้อสลากทั้งหมดจะเป็นเงินออมของผู้ซื้อสลาก (เงินสะสม) ซึ่งจะนำเงินส่งเข้าบัญชีเงินออมรายบุคคลกับ กอช. โดย กอช. จะเป็นผู้บริหารจัดการเงินจำนวนดังกล่าว และเมื่อผู้ซื้อสลากอายุครบ 60 ปี จะสามารถถอนเงินทั้งหมดที่ซื้อสลากมาทั้งชีวิตออกมาได้
“นโยบายนี้จะเข้าแก้ไขปัญหาคนไทยแก่แต่จน แก่แต่ไม่มีเงินเก็บ เพราะการออมภาคสมัครใจในปัจจุบันไม่ได้ผล ต้องอาศัยการออมที่ผูกกับแรงจูงใจซื้อสลากถูกกฎหมาย เงินไม่หาย กลายเป็นเงินออมยามเกษียณ ถูกรางวัลได้เงินเลย ไม่ถูกทุกบาททุกสตางค์จะถูกเก็บเป็นเงินออมยามเกษียณ ซื้อมาก ได้ลุ้นมาก มีเงินออมมาก”
ทั้งนี้ ปัจจุบันสมาชิก กอช.มีอยู่ประมาณ 3 ล้านราย คาดว่าหากแก้ไขกฎหมายและออกผลิตภัณฑ์หวยเกษียณ จะสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้ามาออมเงินเพิ่มเติม คาดว่าจำนวนสมาชิกจะเพิ่มขึ้นเป็น 16-17 ล้านราย สำหรับการดำเนินการดังกล่าวได้มีการหารือร่วมกับสำนักงาน สลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาต่อระบบการจำหน่ายสลากในปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันการชักชวนการออมเงินมีหลากหลายรูปมาก ทั้งซื้อสลากออมทรัพย์ จากสถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน ออกสลากออมสินพิเศษ 1 ปี เงินรางวัลที่ 1 มูลค่าสูงเป็นประวัติศาสตร์ถึง 111 ล้านบาท ซึ่งออกรางวัลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และล่าสุดสลากออมสินพิเศษ 1 ปี ทั้งแบบใบสลาก และสลากดิจิทัล ลุ้นรางวัลพิเศษทองคำแท่งหนัก 10 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 26.5 ล้านบาท อีกจำนวน 1 รางวัล ขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ออกสลากออมทรัพย์ชุดขวัญถุง หน่วยละ 20 บาท จำนวน 100 ล้านหน่วยแบ่งเป็น 10 หมวด หมวดละ 10 ล้านหน่วย วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท อายุการรับฝาก 6 ปี เมื่อฝากครบกำหนดจะได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 3 บาท คิดเป็นอัตราดอกเบี้ย 2.50% ต่อปี ซึ่งการซื้อสลากออมทรัพย์ส่วนใหญ่นั้นเพื่อกระตุ้นการออมและยังสามารถลุ้นรางวัลพิเศษได้อีกด้วย.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่