เร่งฟื้นจากปัจจัยเสี่ยงอื้อ กกร.เห็นด้วยมาตรการกระตุ้นระยะสั้น

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เร่งฟื้นจากปัจจัยเสี่ยงอื้อ กกร.เห็นด้วยมาตรการกระตุ้นระยะสั้น

Date Time: 6 มิ.ย. 2567 06:01 น.

Summary

  • กกร.ประเมินจีดีพีประเทศไทยปีนี้เติบโต 2.2-2.7% เผยสารพัดปัจจัยเสี่ยงกระทบต่อเศรษฐกิจฟื้นตัวได้แบบจำกัด เห็นด้วยกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ส่วนค่าแรงให้ปรับสอดคล้องกับเศรษฐกิจ รวมถึงการกังวลการส่งออกโดนหางเลขจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน

Latest

เจ้าหนี้การบินไทยขอเลื่อนโหวตแผนฟื้นฟู

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า ขณะนี้สถานการณ์การค้าโลกและปริมาณการส่งออกชะลอตัวชัดขึ้น ทำให้ปริมาณการส่งออกของโลกชะลอตัวต่อเนื่อง ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมของประเทศสำคัญๆยังฟื้นตัวได้ช้า และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนมีแนวโน้มกลับมารุนแรงขึ้น โดยเฉพาะมาตรการขึ้นภาษีรอบล่าสุดของสหรัฐฯต่อสินค้ากลุ่มรถยนต์ EV โซลาร์เซลล์ เซมิคอนดักเตอร์ เป็นต้น โดยมีกำหนดบังคับใช้ภายในปีนี้

กรณีดังกล่าวจะเป็นปัจจัยลบเพิ่มเติมต่อการค้าโลก ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ถูกสหรัฐฯมองว่าจีนใช้เป็นฐานการผลิต ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า โดยเศรษฐกิจไตรมาสที่ 1 เติบโต 1.5% ขยายตัวชะลอลงจากไตรมาสก่อน จากการหดตัวของการส่งออกและการใช้จ่ายของภาครัฐ ขณะที่ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจ ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้จำกัด เนื่องจากการส่งออกฟื้นตัวได้ช้า ตามการค้าโลกที่ชะลอตัว และปัญหาเอลนีโญ (ฝนแล้ง) ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลผลิตการเกษตรลดลง ส่วนการใช้จ่ายของครัวเรือนได้รับผลกระทบจากหนี้ครัวเรือนในระดับสูง

ดังนั้น กกร.จึงประเมินว่า ในระยะข้างหน้า ภาวะเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างจำกัด อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการส่งออกฟื้นตัวได้แบบช้าๆตามการค้าโลกที่ชะลอตัว จึงคาดว่า ทุกๆปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว จะทำให้ อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในปีนี้ จะเติบโต 2.2-2.7% ภาคการส่งออกขยายตัว 0.5- 1.5% อัตราเงินเฟ้อ 0.5-1.0%
กกร.ยังได้มีการหารือในประเด็นสำคัญ อาทิ 1. กกร.เห็นด้วยที่รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ทั้งมาตรการเพิ่มการท่องเที่ยวช่วงโลว์ ซีซัน ที่เชื่อว่าจะช่วยกระจายรายได้ ไปทั่วประเทศ รวมถึงการเสนอมาตรการค้ำประกันสินเชื่อของ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) วงเงิน 50,000 ล้านบาท ที่เตรียมนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ที่จะส่งผลดีต่อเนื่องไปยังการลงทุน การจ้างงาน และการบริโภค และคาดว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ 200,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ กกร.พร้อมเข้าไปมีส่วนช่วยคัดกรองและรับรองเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ ให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ที่ประชุม กกร.ได้เสนอให้ภาครัฐมีมาตรการเพิ่มเติมในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอี รวมถึงมาตรการสนับสนุนให้เอสเอ็มอีเข้ามาอยู่ในระบบเศรษฐกิจ เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นระยะเวลา 5-7 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาปรับตัวและเข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น

2.กกร.อยู่ระหว่างหารือกับภาครัฐเกี่ยวกับแนวทางการปรับค่าแรงขั้นต่ำ ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ผลิตภาพแรงงาน และดำเนินการตามกรอบกฎหมาย ตามข้อเสนอของภาคเอกชนในประเด็นที่ได้นำเสนอรัฐบาลไปแล้ว โดยแต่ละพื้นที่จะประสานผ่าน กกร.จังหวัดให้มีการหารือร่วมกับคณะอนุกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำรายจังหวัดต่อไป

3.ที่ประชุม กกร.มีความกังวลต่อภาคการส่งออกสินค้า ที่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่มีแนวโน้มกลับมารุนแรงขึ้น จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกสินค้าของจีนไปยังสหรัฐฯ ทำให้จีนต้องหาตลาดใหม่ทดแทนเพื่อส่งออกสินค้า ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติม ต่อการส่งออกสินค้าของไทย

“รัฐจะต้องมีมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของภาคส่งออก และส่งเสริมสินค้าที่มีศักยภาพ ในอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยเร็วที่สุดเพื่อเพิ่มมูลค่าในการส่งออกของประเทศ”.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ