เริ่มเสียทีเก็บภาษี VAT เท่าเทียม ครม.เคาะสินค้านำเข้าจ่ายตั้งแต่บาทแรก

ครม.เห็นชอบออกร่างประกาศกระทรวงการคลังให้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้านำเข้ามูลค่าตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป จากเดิมที่เก็บมูลค่า 1,500 บาทขึ้นไป สร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการไทยที่ถูกเก็บภาษี VAT ตั้งแต่บาทแรก เร่งออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้มีผลหลังจากนั้น 15 วัน ขั้นต้นทดลองถึง 31 ธ.ค.2567 เพื่อรอการออกมาตรการระยะยาว

ผู้สื่อข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2567 เห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างประกาศกระทรวงการคลัง เพื่อจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้ามูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับสินค้านำเข้ามูลค่าตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไปเป็นการชั่วคราวจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2567 จากเดิมที่ไม่มีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้าที่มูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ขั้นตอนต่อไปกระทรวงการคลังจะออกประกาศกระทรวงเพื่อแก้ไขประกาศฉบับเดิม และจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากนั้นจะมีผลภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันออกประกาศ และมีผลไปถึงวันที่ 31 ธ.ค.2567 เพื่อรอการออกมาตรการระยะยาว

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า การดำเนินการเรื่องนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมในการขายสินค้าให้แก่ผู้บริโภค เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ขายในต่างประเทศไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ต่างจากผู้ขายในประเทศไทยที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้น รัฐบาลได้มอบหมายให้กรมสรรพากรแก้ไขประมวลรัษฎากรเพื่อจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้านำเข้าที่มีราคา ไม่เกิน 1,500 บาท ซึ่งจะเป็นมาตรการระยะยาวต่อไป แต่ระหว่างนี้รัฐบาลต้องการให้มีมาตรการระยะสั้นขึ้นมาแก้ปัญหาก่อน กระทรวงการคลังจึงเสนอให้ ครม.พิจารณาว่าควรจะมีการออกประกาศกระทรวงการคลังยกเลิกการยกเว้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในระหว่างที่ ครม.ได้พิจารณาเรื่องนี้ ได้มีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงว่า มาตรการนี้เป็นมาตรการที่ภาคเอกชนที่ทำธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาเรื่องนี้ หลังจากที่มีสินค้าราคาต่ำเข้ามาตีตลาดในประเทศ ไทยเป็นจำนวนมาก จึงต้องสร้างความเป็นธรรมให้กับสินค้าไทยและต้องการให้มีผลโดยเร็วเพื่อช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทย

ขณะที่นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า อยากให้การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศต้องมีการพิจารณาการนำเข้าสินค้าที่มีมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ด้วย ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้สอบถามว่าในเรื่องนี้จะเป็นมาตรการที่รวมในเรื่องของสินค้าเกษตรด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในที่สุด ครม.ได้เห็นชอบในหลักการมาตรการนี้ เพื่อเป็นการทดลองและประเมินผลการใช้มาตรการนี้ นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.ยังได้มีการเก็บเอกสารในที่ประชุมและสั่งไม่ให้มีการแถลงข่าวในเรื่องนี้

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท (จากเดิมเก็บเฉพาะที่มีมูลค่าเกิน 1,500 บาท) จะทำให้เกิดความเท่าเทียมในการจัดเก็บภาษี ระหว่างผู้ขายสินค้าในประเทศกับผู้ค้าขายสินค้าในต่างประเทศ โดยกรมสรรพากรอยู่ระหว่างศึกษาตามคำแนะนำขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organi sation for Economic Co-operation and Development-OECD) ที่ให้ขยายการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มไปถึงผู้ขายสินค้าที่อยู่ในต่างประเทศและแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ขายสินค้าให้กับลูกค้าในประเทศไทย “พูดง่ายๆ คือจะเก็บภาษี VAT ตั้งแต่บาทแรก เพราะแต่ละวันมีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศเข้ามาหลายล้านชิ้น จำเป็นต้องจัดเก็บภาษี VAT เช่นเดียวกับสินค้าที่จำหน่ายในประเทศไทยเพื่อความเท่าเทียม”.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่