Goldman Sachs กลุ่มธนาคารเพื่อการลงทุนและกลุ่มหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยคาดการณ์ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 จากเดิมที่คาดว่าจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลวางแผนที่จะใช้จ่ายมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการเติบโตเศรษฐกิจ ช่วยลดแรงกดดันการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
Danny Suwanapruti และ Andrew Tilton นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร กล่าวถึงแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของ กนง.ในรายงานว่า การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป เนื่องจากรัฐบาลเพิ่มการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อสนับสนุนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้พวกเขามองว่า กนง.จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในไตรมาสที่สองและสามของปี 2568 จากประมาณการเดิมที่คาดว่าจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในไตรมาสที่สามของปีนี้
สอดคล้องกับการประเมินของ SCB EIC ที่คาดว่ากนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 1 ครั้ง ปลายปีนี้เหลือ 2.25% และปรับลดอีกครั้งเหลือ 2% ในช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากเห็นความจำเป็นในการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จากความเปราะบางในภาคครัวเรือนและธุรกิจ และปัญหาโครงสร้างที่ถ่วงการเติบโตเศรษฐกิจ เริ่มกดดันอุปสงค์ในประเทศให้แผ่วลงในระยะข้างหน้า รวมถึงต้นทุนการปรับลดดอกเบี้ยที่ลดลง โดยการลดดอกเบี้ยในช่วงที่ภาคการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ จะไม่กระตุ้นให้คนก่อหนี้เพิ่มเหมือนในอดีต
ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกร มองว่า กนง.จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จากระดับปัจจุบันที่ 2.5%
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบหลักการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567 (งบฯ กลางปี 67) โดยจะทำการปรับเพิ่มรายจ่ายที่ 112,000 ล้านบาท เพื่อนำไปสมทบกับโครงการแจกเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะทำให้การขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 805,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.3% ต่อ GDP จากเดิมที่คาดว่าจะขาดดุลอยู่ที่ 3.7% ต่อ GDP
อย่างไรก็ตามการกู้งบประมาณเพิ่มเติมดังกล่าว ยังอยู่ภายในกรอบวินัยการคลัง และถูกเสนอเข้าที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney