ธอส.พร้อมรับสังคมผู้สูงอายุ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ธอส.พร้อมรับสังคมผู้สูงอายุ

Date Time: 28 พ.ค. 2567 05:27 น.

Summary

  • พันธกิจของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) คือ การทำให้คนไทยมีบ้าน มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยอีกระดับหนึ่ง

Latest

ที่ยืนของ “ธุรกิจไทย” แคบลงทุกที ไทยขาดดุล “จีน” สูงขึ้นเรื่อยๆ นำเข้าสินค้า ผ่าน Shopee - Lazada

พันธกิจของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) คือ การทำให้คนไทยมีบ้าน มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยอีกระดับหนึ่ง

เพราะ “บ้าน” เป็นศูนย์รวมของสมาชิกทุกคนในครอบครัว มีความรัก ความอบอุ่น ความปลอดภัย ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และบ้านยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้ด้วย

ปัจจุบัน สังคมไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มตัว การมี “บ้าน” เพื่อรองรับผู้สูงอายุ เป็นสิ่งจำเป็นมาก ดังนั้น เมื่อวันที่ 17-20 พ.ค.ที่ผ่านมา “ธอส.” ได้พาคณะสื่อมวลชนไปศึกษาดูงานการใช้ชีวิตและการออกแบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ณ เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นมีประชากรผู้สูงวัยมากที่สุดในโลก และคนสูงวัยในญี่ปุ่น ยังคงทำงาน โดยเฉพาะการบริการ

โดยคนญี่ปุ่นจะเตรียมความพร้อมของตัวเอง ตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป เก็บออม เพื่อให้มีเงินไว้ใช้ยามเกษียณอายุ รวมถึงการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตในวัยสูงอายุ

ขณะที่ “ธอส.” มีพันธกิจทำให้คนไทยมีบ้าน ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงวัย ธอส.พร้อมสนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อ จึงได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับผู้สูงอายุ 4 โครงการ ภายใต้กรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ

ได้แก่ 1.โครงการบ้าน ธอส. สร้างสุข เพื่อผู้สูงวัย ปี 2567 กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ต้องการกู้เพื่อต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซมบ้านตามแบบบ้านผู้สูงอายุ และผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการยื่นขอสินเชื่อหลายราย

2.โครงการสินเชื่อ Senior Home 4U ปี 2567 กรอบวงเงิน 2,000 ล้านบาท สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่ต้องการกู้ซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ไถ่ถอนจากสถาบันการเงินอื่น (รีไฟแนนซ์) ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย

3.โครงการสินเชื่อ Senior Home 2U ปี 2567 กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจากผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เป็นสัญญาแรก โดยไม่มีประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส.และสถาบันการเงินอื่น

4.โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage : RM) กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถนำที่อยู่อาศัยของตนเอง ที่ปลอดจำนองมาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ โดยไม่พิจารณารายได้ของผู้กู้ วงเงินให้กู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 10 ล้านบาท กรณีที่ดินพร้อมอาคาร ให้กู้ไม่เกิน 50% ของราคาประเมินที่ดิน และอาคาร กรณีห้องชุด ให้กู้ไม่เกิน 30% ของราคาประเมินห้องชุด

นอกจากนี้ ธอส. ยังให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการ การเงิน การจัดทำบัญชีครัวเรือนให้กับผู้สูงอายุได้เรียนรู้เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านรายได้ในวัยเกษียณอายุ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ทั้งปูพื้นฐานทางการเงิน ให้คำแนะนำการใช้แอปพลิเคชัน “GHB ALL GEN” และ “GHB Buddy” ในไลน์ ตามโครงการ พื้นฐานทางเงินสำหรับผู้สูงอายุ

อีกทั้งยังมีการสอนอาชีพให้กับผู้สูงอายุ เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์มีอาชีพที่เหมาะสมกับวัยและประสบการณ์ เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพให้สามารถสร้างรายได้และลดรายจ่ายให้กับตนเอง ซึ่งจะทำให้ผู้สูงอายุสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลสามารถลดค่าใช้จ่ายในอนาคตด้านสวัสดิการต่างๆได้อย่างยั่งยืน

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า เป้าหมายการทำงานของ ธอส.เพื่อให้คนไทยมีบ้านเป็นของตัวเอง และเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ง่าย คนที่มายื่นกู้กับ ธอส.แต่ไม่ผ่านหลักเกณฑ์ ธอส.จะมีโรงเรียนการเงิน ช่วยสอนเพื่อให้ผ่านหลักเกณฑ์ สามารถยื่นกู้สินเชื่อบ้านได้ และจะพยายามชักชวนผู้มีรายได้น้อย เปลี่ยนค่าเช่า เป็นค่าผ่อนบ้านแทน เพราะการมีบ้านเป็นของตัวเองนั้น ถือเป็นทรัพย์สิน เป็นหลักประกันที่มีมูลค่า และเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ตามนโยบายรัฐบาล

ขณะเดียวกัน ธอส.จะพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ “GHB ALL GEN” อำนวยความสะดวกในการใช้บริการมากยิ่งขึ้น โดยจะนำแนวคิดและวิธีปฏิบัติของธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) มาปรับใช้ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุนผ่านระบบออนไลน์ ผ่านมือถือ เพราะการเข้าถึงแหล่งทุน จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคมได้

“ผมได้ไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบนโยบายพนักงานสาขาทั่วประเทศ ไปหาลูกค้าที่เป็นลูกจ้างประจำ หรือลูกจ้างสัญญาของหน่วยงานราชการต่างๆ ที่สนใจจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ยื่นกู้แล้ว แต่ยังไม่ผ่าน เนื่องจากลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ทำงานราชการ แต่ไม่ได้สิทธิราชการ ทำให้ไม่ผ่านเงื่อนไขหลักเกณฑ์การยื่นขอสินเชื่อ”

กลุ่มนี้ หากสนใจเจรจาเป็นกรณีๆ เช่น ยินยอมให้หักค่าผ่อนบ้าน ผ่านบัญชีเงินเดือนได้ เพราะบางคนเป็นลูกจ้างราชการมา 10 ปี เช่า คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ ขั้นต่ำค่าเช่าปัจจุบัน 5,000-6,000 บาท ลองเปลี่ยนจากค่าเช่าเป็นค่าผ่อนบ้านแล้วมีบ้านเป็นทรัพย์สินของตัวเอง จะทำให้ชีวิตมั่นคงมากขึ้น.

ดวงพร อุดมทิพย์

คลิกอ่านคอลัมน์ “The Issue” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ