นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ วันแรก เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2567 ว่า พร้อมขับเคลื่อนเป้าหมายสร้างรายได้รวมการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาทในปี 2567 ซึ่งเป็นการบ้านจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถือเป็น นโยบายเร่งด่วนที่สุดและต้องทำให้ได้ สอดรับกับที่นายกฯ ระบุไว้ว่าประเทศไทยจะไม่หลับใหล หลังภาคการท่องเที่ยวเพิ่งผ่านช่วงไฮซีซันไป และเข้าสู่โลว์ซีซันในไตรมาส 2-3 ระหว่างเดือน พ.ค.-ก.ย. เป็นช่วงที่ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวได้รับความเดือดร้อน จะต้องมีการส่งเสริมการตลาดเชิงรุกไปยังกลุ่มประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า (VISA FREE) โดยให้มีการทำแพ็กเกจ ที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับกิจกรรมอื่นๆ เช่น การตรวจสุขภาพ งานแต่งงาน การท่องเที่ยวของกลุ่มข้ามเพศ LGBTQ+ กลุ่มความเชื่อมูเตลู กลุ่มแฟนคลับของไอดอล ไทย เกาหลี หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ
สำหรับตลาดไทยเที่ยวไทย มีความเป็นไปได้ที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มเติมช่วงโลว์ซีซัน ให้สอดรับกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อคนไทย ซึ่งเป็นจุดที่รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไข โดยอาศัยจุดแข็งด้านซอฟต์พาวเวอร์ เช่น อาหาร และอื่นๆ โดยในยุคของตนจะเน้นการผลักดันเมืองรองให้เป็นเมืองน่าเที่ยว เพื่อเปิดพื้นที่ต่างๆให้มีการท่องเที่ยวมากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 67 ททท.วางไว้ที่ 35 ล้านคน แต่จากการประเมินครั้งล่าสุดคาดว่าจะทำได้ 39 ล้านคน และสร้างรายได้เข้าประเทศ 3.5 ล้านล้านบาท.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่