“ทำทุกทาง - ยอมทุกอย่าง - แข่งกันลดภาษี” เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ นี่คือภาพที่เกิดขึ้นกับหลายประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เพื่อมุ่งหวังให้การเข้ามาลงทุนของต่างชาติ ช่วยปลุกเศรษฐกิจ นำเม็ดเงินที่ได้มาพัฒนาประเทศในแง่ต่างๆ แม้จะแลกมาด้วย อัตราภาษีที่แท้จริงนั้น เก็บได้น้อย และลดต่ำลงเรื่อยๆ
ประกอบกับ รูปแบบธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบออนไลน์มากขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องตั้งสำนักงานในประเทศที่ให้บริการ ทำให้ประเทศนั้นๆ รวมถึงไทยด้วย ไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
จนนำมาสู่ โจทย์ใหญ่ที่ทั่วโลก พยายามร่วมมือหาทางออกมานานนับสิบปี โดยต้องการ จัดเก็บภาษีจากธุรกิจข้ามชาติ ให้เป็นธรรมมากขึ้น ก่อนเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เสนอให้มีการปฏิรูประบบภาษีระหว่างประเทศ ด้วยการจัดเก็บอัตราภาษีเงินได้ธุรกิจขั้นต่ำ (Global minimum tax) 15%
ซึ่ง Global minimum tax นับเป็นการปฏิรูประบบภาษีระหว่างประเทศครั้งใหญ่ ประเทศที่มีความพร้อม สามารถประกาศความชัดเจนในการเดินเกมวางระบบภาษีใหม่ดึงเม็ดเงินลงทุนได้ทันที
ล่าสุด ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ออกรายงานว่า สำหรับประเทศไทย เป็น 1 ใน 10 กลุ่มประเทศนำร่อง Global minimum tax ของ OECD ที่คาดว่าจะออกใช้ต้นปี 2568
โดยไทยอยู่ในขั้นตอนที่กรมสรรพากรเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกเป็น พ.ร.บ. Global minimum tax ภายในครึ่งแรกของปีนี้ และจะกำหนดให้บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ต้องเสียภาษีเงินได้ในอัตราภาษีที่แท้จริง (Effective tax rate) ไม่น้อยกว่า 15% รวม 2 แนวทางหลัก ดังนี้
"Global minimum tax จะบังคับใช้ในการจัดเก็บภาษีเงินได้บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มีรายได้รวมต่อปีเกิน 2.8 หมื่นล้านบาท โดยมีประเทศสมาชิกกว่า 140 ประเทศเข้าร่วมข้อตกลง Pillar 2 ไว้ตั้งแต่ ต.ค. 2021 และล่าสุดมี 55 ประเทศที่เริ่มดำเนินการแล้ว เช่น สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้"
สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับการค้าโลก และประเทศปลายทางต่างๆ นั้น OECD ประเมินไว้ 4 ประเด็น ดังนี้
อย่างไรก็ดี ไทยมีการทำมาตรการรองรับเพื่อให้ไทยยังน่าสนใจในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติร่วมด้วย โดย ครม. มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เสนอไว้ตั้งแต่ 7 มี.ค. 2023
ให้รัฐบาลจัดสรรรายได้จากการจัดเก็บภาษีส่วนเพิ่มตาม Pillar 2 ในสัดส่วน 50%-70% ให้กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อให้ BOI ใช้ออกแบบสิทธิประโยชน์การลงทุนของบริษัทต่างชาติที่อาจเสียประโยชน์จากเกณฑ์ใหม่นี้
ขณะข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชูว่า เรามีจุดขายอื่น ที่สามารถดึงดูดการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติได้ ทั้งความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ห่วงโซ่อุปทานที่ครอบคลุม และสิทธิประโยชน์อื่นจาก BOI ที่อำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน ทำให้การเดินเกมเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องยาก
เพราะสามารถเน้นสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ภาษีได้มากขึ้น และการยกเลิกกฎหมายที่ไม่จำเป็น จะเป็นส่วนสำคัญที่จะส่งเสริมให้ไทยสามารถแข่งขันได้ ท่ามกลางความท้าทายในอนาคตที่ภาษีไม่ใช่ปัจจัยดึงดูดหลักอีกต่อไป
ที่มา : EIC, ธปท., กรมสรรพากร
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney