ในที่สุด รัฐบาลไทยและรัฐบาลอินโดนีเซีย สามารถบรรลุข้อตกลงซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ลอตแรก 55,000 ตัน ได้สำเร็จ หลังเจรจากันนานหลายเดือน
โดยจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือน เม.ย.67 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ราคาข้าวไทยมีเสถียรภาพ และเกษตรกรขายได้ราคาดีขึ้น เพราะราคาที่ไทยขายให้กับอินโดนีเซีย แม้เป็นราคามิตรภาพ แต่ถือว่าอยู่ในระดับดี และสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นปี 67 เป็นต้นมา ผู้ส่งออกไทยสามารถประมูลขายข้าวให้กับอินโดนีเซียได้อีกประมาณ 400,000 ตัน แม้ต้องเผชิญการแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งสำคัญ ทั้งเวียดนาม และปากีสถาน ที่เสนอราคาขายต่ำกว่าไทยมาก แต่ข้าวไทยก็ยังชนะการประมูลได้บางส่วน
แม้การขายแบบจีทูจี มีความยากตรงที่การเจรจาต่อรองเรื่องราคา ที่ผู้ซื้อย่อมต้องการซื้อราคาต่ำ แต่ผู้ขายก็อยากขายราคาสูง เพราะข้าวไทยราคาสูงกว่าคู่แข่งมาก ถ้าขายต่ำก็จะขาดทุน จึงต้องเจรจาต่อรองกันนานหลายเดือน และซื้อครั้งละไม่มาก อีกทั้งผู้ส่งออกไทย ไม่อยากขายจีทูจี เพราะสามารถขายตรงให้กับผู้ซื้อได้เองในราคาที่มีกำไรมาก
แต่ครั้งนี้ ภาคเอกชน ทั้งสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และสมาคมโรงสีข้าวไทย ก็ยอมให้ความร่วมมือในการจัดหาข้าวมาส่งมอบให้อินโดนีเซีย รวมถึงให้ข้อมูลการผลิต การบริโภค การส่งออก และราคาข้าว กับกระทรวงพาณิชย์ใช้ประกอบการพิจารณาขายข้าวที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน
จากความสำเร็จครั้ง “นายภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้ กรมการค้าต่างประเทศ หน่วยงานหลักในการเจรจา เดินหน้าเจรจาขายลอตต่อไปอย่างต่อเนื่อง และขยายตลาดข้าวไทยทุกรูปแบบ รวมถึงแบบจีทูจี เสริมจากการขายข้าวของเอกชน เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดข้าวไทย และตอกย้ำการเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารของโลก
“นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์” อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า กรมมีแผนที่จะบุกตลาดเดิมและตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น ตลาดข้าวพรีเมียม ที่สหรัฐฯ เซเนกัล จีน ฮ่องกง ซาอุดีอาระเบีย, ข้าวขาว ที่ฟิลิปปินส์ อิรัก ญี่ปุ่น มาเลเซีย, ข้าวนึ่ง ที่แอฟริกาใต้ เบนิน ไนจีเรีย บังกลาเทศ และข้าวเพื่อสุขภาพ ที่ยุโรป ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย และผลักดันให้นำเข้าเพิ่ม
หากราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้เช่นปัจจุบัน รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวไทย เพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อ คาดว่า ปีนี้ ไทยส่งออกข้าวได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 7.5 ล้านตัน จากล่าสุด วันที่ 1 ม.ค.-22 เม.ย.67 ส่งออกแล้ว 3.06 ล้านตัน กว่า 70,717 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปี 66 ที่ส่งออกได้ 2.48 ล้านตัน 45,975 ล้านบาท
การส่งออกข้าวปริมาณมาก ในราคาสูง ไม่แข่งกันตัดราคาขาย หรือถูกกดราคารับซื้อ จะทำให้ความหวังของชาวนาไทย ที่ต้องการขายข้าวได้ราคาดี ปลดหนี้สินได้ เป็นจริง!!
ฟันนี่เอส