จุดวัดใจ “กองทุนน้ำมัน” ติดลบแสนล้าน กฟผ.แบกต้นทุนค่า FT อ่วม รัฐจะอุ้มมาตรการลดราคาพลังงานต่อไหม?

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

จุดวัดใจ “กองทุนน้ำมัน” ติดลบแสนล้าน กฟผ.แบกต้นทุนค่า FT อ่วม รัฐจะอุ้มมาตรการลดราคาพลังงานต่อไหม?

Date Time: 19 เม.ย. 2567 10:58 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • จะเกิดอะไรขึ้น? ถ้าภาครัฐทยอยปลด มาตรการลด “ราคาน้ำมัน-ค่าไฟ-ก๊าซหุงต้ม” จุดวัดใจรัฐบาล บนฐานะการเงิน “กองทุนน้ำมัน” น่าห่วง หลังล่าสุด ติดลบทะลุแสนล้านแล้ว ขณะ กฟผ.แบกต้นทุนค่า Ft อ่วม จุดพลิก ที่อาจทำให้ เงินเฟ้อ กลับมาเป็นบวกอีกครั้ง

Latest


เมื่อ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ ประกาศตัวเลข “เงินเฟ้อ” ล่าสุด เดือน มี.ค. 2567 ว่าเงินเฟ้อไทย ยังคงลดลง 0.47% ทำให้ ไทยจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ อันดับ 4 จาก 136 เขตเศรษฐกิจ และยังคงต่ำที่สุดในอาเซียนจาก 7 ประเทศ (สปป.ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย) ช่วย

อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นตัวเลข ที่เราจะได้เห็นการลดลงของเงินเฟ้อเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อกระทรวงพาณิชย์ ชี้ว่า แนวโน้ม เงินเฟ้อ ไตรมาส 2 ปี 2567 จะเร่งตัวสูงขึ้น จาก 4 สาเหตุ ด้วยกัน ได้แก่ 

  1. ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
  2. อัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มอ่อนค่ากว่าไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 และช่วงเดียวกันของปีก่อน
  3. ฐานค่ากระแสไฟฟ้าที่ต่ำในปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม 2566 เนื่องจากรัฐบาลมีการดำเนินมาตรการลดราคาค่ากระแสไฟฟ้าค่อนข้างมาก
  4. การปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ทำให้ราคาสินค้าในหมวดที่เกี่ยวข้องปรับตัวสูงขึ้น

ส่งผล กระทรวงพาณิชย์ ได้ปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2567 จากเดิมระหว่าง(-0.3)-1.7% มาอยู่ระหว่าง 0.0-1.0% 

อย่างไรก็ดี ตัวแปรที่สำคัญ ของการเร่งขึ้น ของ “เงินเฟ้อ” คือ แนวโน้มภาครัฐกำลังทยอยลดการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศ ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อเนื่อง ความขัดแย้งระหว่าง รัสเซียและยูเครน ปี 2565 

ทำให้ในปีเดียวกัน คนไทยมีโอกาสได้ใช้พลังงาน ในราคาที่มีสัดส่วนการเพิ่มขึ้นต่ำกว่าราคาพลังงานโลก ก็ด้วยการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศของ ภาครัฐอยู่ที่ประมาณ 19-35% ของราคาเฉลี่ยที่แท้จริง 

กองทุนน้ำมันฯ ติดลบทะลุแสนล้านอีกครั้ง 

ในบทวิเคราะห์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ว่า ตลอดการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศของภาครัฐ มีส่วนให้เงินเฟ้อไทยไม่ปรับเพิ่มขึ้นมาก แม้ปัจจุบัน ราคาพลังงานในตลาดโลกจะเร่งตัวขึ้นในบางจังหวะ

โดยปัจจุบันค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 อยู่ ที่ 4.18 บาท/หน่วย และงวดเดือนต่อไป (เดือน พ.ค.-ส.ค. 67) ก็มีแนวโน้มจะถูก ตรึงไว้ในระดับเดิม เช่นเดียวกับราคาก๊าซหุงต้มก็ยังตรึงอยู่ที่ 423 บาท/ถังขนาด 15 กก. ไปจนถึงเดือน มิ.ย. 2567 

ขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 50 สตางค์/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. 2567 เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ขณะนี้อยู่ที่ 30.44 บาท/ลิตร 

อย่างไรก็ดี ผลจากการอุดหนุนราคาพลังงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กองทุนฯ) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีภาระต้นทุนพลังงานและหนี้สินที่เพิ่มขึ้น 

“สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 14 เมษายน 2567 ติดลบ 103,620 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 56,407 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 47,213 ล้านบาท” 

“ภาระต้นทุนคงค้างของ กฟผ. อยู่ในระดับสูง จากการรับภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าในช่วงก่อนหน้า ราว 115,652 แสนล้าน”

อะไรจะเกิดขึ้น? ถ้าภาครัฐ ทยอยปลดมาตรการลดราคาพลังงาน 

ดังนั้น หากภาครัฐไม่มีการทยอยลดการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศจาก ระดับปัจจุบัน อาจส่งผลให้ภาระต้นทุนของกองทุนฯ และ กฟผ. มีแนวโน้ม กลับไปแตะที่ระดับสูงสุดเหมือนในปี 2565 อีกครั้ง 

  • หากราคาดีเซลและก๊าซ LPG ยังคงได้รับการอุดหนุนเท่ากับในระดับ ปัจจุบัน ก็มีความเป็นไปได้ที่ภายในไตรมาส 2/2567 กองทุนฯ อาจต้อง เผชิญกับสถานะติดลบสูงถึง 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นระดับเดียวกับช่วง ปี2565 ที่สูงสุดในประวัติการณ์ (ภายใต้สมมติฐานว่าราคาพลังงานโลก ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน) 
  • ในขณะที่ค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) หากมีการอุดหนุนในระดับใกล้เคียงกับ งวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 67 ก็มีความเป็นไปได้ที่ภายในสิ้นปี 2567 ภาระต้นทุนคงค้างของ กฟผ. จะเพิ่มขึ้นกลับสู่ระดับใกล้เคียงกับช่วงปี 2565 ที่มีภาระต้นทุนสูงถึง 1.5 แสนล้านบาทอีกครั้ง

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย มีความเห็นว่า ในขณะที่ทั้งกองทุนน้ำมันฯ และ กฟผ.แบกภาระมากขึ้นเรื่อยๆ แต่แรงกดดันเงินเฟ้อต่ำ อาจจะเป็นจังหวะเวลาที่ภาครัฐจะทบทวนทยอยปรับลดการอุดหนุนราคา 4 พลังงานลง โดยอาจพิจารณาสนับสนุนเฉพาะกลุ่มที่เห็นว่ามีความจำเป็น อาทิ กลุ่มเปราะบาง 

แต่แนวทางที่ภาครัฐทยอยปรับลดการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศลงและ ปล่อยให้ราคาค่อยๆ สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง อาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยจะพลิกกลับมาเป็นบวกได้ตั้งแต่เดือน พ.ค. 67 เป็นต้นไป หลังจากเผชิญการติดลบมานาน 6 เดือน ทั้งนี้ ในปี 2567 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยคาดว่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 0.8%

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์