น่าจะเป็นถนนที่ก่อสร้างนานที่สุดในประเทศ จนบางคนหยอกล้อว่าอาจจะติดอันดับโลกด้วยซ้ำ สำหรับ “ถนนพระราม 2” ซึ่งการก่อสร้างที่ล่าช้า ยังมาพร้อมกับอุบัติเหตุบ่อยครั้งรายไตรมาส อย่างล่าสุด เพิ่งเกิดเหตุนั่งร้านตอม่อล้มฟาดถนนช่วงสงกรานต์ จนสร้างความผวาให้กับผู้สัญจรไปมาไม่รู้จบ
ขณะคำถามที่ว่า “เมื่อไรถนนพระราม 2 จะสร้างเสร็จ” นั้น กระทรวงคมนาคม ได้ชี้แจงว่า การก่อสร้างถนนพระราม 2 ถูกกำหนดไว้ว่าภายใน มิ.ย. 2568 จะต้องก่อสร้างให้เสร็จ แม้ขณะนี้จะพบปัญหาเรื่องผู้รับเหมาใหญ่ขาดสภาพคล่อง ทำให้การก่อสร้างล่าช้าออกไปอีก
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลว่า ปัจจุบันทำเลพระราม 2 ยังคงเป็นทำเลศักยภาพสูงยืน 1 ในโซนฝั่งธนบุรี ที่คนมองหาบ้านใหม่สนใจมากที่สุด สะท้อนจากผู้พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรรายใหญ่ “ชูรัชฏ์ ชาครกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ปัจจุบันทำเลพระราม 2 ยังเป็นทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่กำลังมองหาบ้าน เพราะเป็นทำเลที่สามารถใช้เดินทางเข้าสู่พื้นที่ย่านเศรษฐกิจใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เมื่อเทียบกับทำเลชานเมืองโซนอื่นๆ ของกรุงเทพฯ
ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก และสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ เซ็นทรัลพระราม 2, เทสโก้ โลตัส พระราม 2, บิ๊กซี พระราม 2, โฮมโปร พระราม 2 รวมถึง พอร์โต ชิโน่ รายล้อมไปด้วยสถานศึกษาชั้นนำ ได้แก่ ร.ร.อัสสัมชัญ แคมปัส พระราม 2, ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมีสถานพยาบาลชั้นนำ ได้แก่ รพ.บางปะกอก 9, รพ.บางมด, รพ.นครธน ทำให้เป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะอยู่อาศัยเองหรือลงทุนก็ตาม
โดยบริษัทมั่นใจว่าหากเครือข่ายคมนาคมที่ภาครัฐได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อย จะพลิกโฉมพระราม 2 ได้อย่างมาก เพิ่มความสะดวกในการเดินทางเข้าออกเมือง และเชื่อมต่อพื้นที่จังหวัดเศรษฐกิจให้แก่ย่านนี้ได้อย่างหลากหลายเส้นทาง ได้แก่
โดยเฉพาะการเดินทางแบบสะดวกรวดเร็วด้วยระบบบริการขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มในอนาคต และส่วนต่อขยาย ‘มอเตอร์เวย์สาย M82’ ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จที่จะทันเปิดใช้ตามกำหนดภายในปี 2567 ก็จะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรหนาแน่นในเวลาเร่งด่วนบนถนนพระราม 2 ลงไปได้ และเพิ่มโครงข่ายใหม่ให้การเดินทางสู่ภาคใต้คล่องตัวและสะดวกมากยิ่งขึ้น
“ทำเลพระราม 2 เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดีได้อย่างครบครัน เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยในระยะยาว การประกาศใช้บัญชีราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรอบใหม่ของปี 2566-2569 โดยกรมธนารักษ์ ทำให้เห็นว่าได้มีการปรับขึ้นราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเฉลี่ยสูงถึง 7-8% เนื่องจากศักยภาพของทำเลพระราม 2 ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง สามารถเชื่อมต่อโครงข่ายถนนและทางพิเศษได้หลายสาย เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกสบาย”
ทั้งนี้ โครงการการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ คาดว่าจะเปิดใช้บริการได้ในปี 2570 ทุกปัจจัยที่กล่าวมานี้ ล้วนเป็นแรงหนุนหลักที่ดึงดูดให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านยังให้ความนิยมต่อโครงการที่อยู่อาศัยในย่านนี้อีกด้วย
สำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านใหม่ หรือตัดสินใจซื้อบ้านในทำเล กทม. ปริมณฑลนั้น พบแนวโน้มราคาบ้านยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น และจะมีภาพชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง จากการที่ผู้พัฒนาโครงการปรับราคา เพื่อให้สะท้อนต้นทุนก่อสร้างบ้านที่แท้จริง
ซึ่งศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุในรายงาน ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปี 2567 ว่า ราคาบ้านใหม่ช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ในทำเลหลัก ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 5 ไตรมาสแล้ว
โดยมาจากต้นทุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นหลายประการ เช่น ราคาที่ดิน ค่าวัสดุก่อสร้าง และค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ออกมาสู่ตลาดที่เปิดตัวโครงการ มีราคาเสนอขายเพิ่มขึ้นตามต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยมีข้อจำกัดในหลายด้าน
ขณะในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 มีความเป็นไปได้ที่ราคาที่อยู่อาศัยของโครงการใหม่ๆ ก็จะสะท้อนต้นทุนใหม่มากขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงผลักให้ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นได้ และจะทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยต้องซื้อในราคาที่สูงขึ้น
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญในการช่วยให้คนไทยสามารถซื้อที่อยู่อาศัยที่มีทิศทางราคาที่สูงขึ้น คือการพัฒนาเศรษฐกิจที่ดีขึ้น สร้างการกระจายรายได้ให้ไปถึงประชาชนทุกกลุ่มที่มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้รายได้ของคนไทยมีการปรับตัวดีขึ้น และก็จะช่วยให้ประชาชนมีความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัย และความสามารถในการเข้าถึงสินเชื่อสูงขึ้น
ที่มา : REIC
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney