มูดี้ส์ชี้จีดีพีไทยปีนี้ขยายตัว 3%

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

มูดี้ส์ชี้จีดีพีไทยปีนี้ขยายตัว 3%

Date Time: 18 เม.ย. 2567 05:45 น.

Summary

  • Moody’s ให้จีดีพีประเทศไทย ปี 2567 ขยายตัวถึง 3% สูงกว่าของ กนง.ที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.6% เป็นการการันตีว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแน่นอน

Latest

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ย้ำชัด ไทยไม่ลด "ดอกเบี้ย" ตามเฟด ชี้ "บาทแข็งค่า" ไม่ทุบทิศทางส่งออกไทย

เศรษฐกิจไทยวันนี้ ไม่ได้เลวร้ายเหมือนกับที่ รัฐบาลพยายามวาดภาพ เพื่อเป็นช่องทางกู้เงินทางอ้อมไปแจกหาเสียง 5 แสนล้านบาท ข้อมูลล่าสุด 12 เมษายน คุณจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล ที่ปรึกษาด้านหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า “มูดี้ส์” หรือ Moody’s Investors Service บริษัทจัดอันดับเครดิตยักษ์ใหญ่ชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐฯ ได้ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ Baa1 หรือเทียบเท่า BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)

เครดิตระดับ BBB+ มีเสถียรภาพ ถ้าเป็นตราสารหนี้หรือหุ้นกู้ ถือเป็นระดับที่น่าลงทุน มีความเสี่ยงปานกลางเท่านั้น

สาระสำคัญที่ “มูดี้ส์” คงอันดับเครดิตประเทศไทยไว้ที่ BBB+ มีเสถียรภาพ ข้อแรก ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และมีความหลากหลาย มีนโยบายมหภาคที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิผล มูดี้ส์คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตจาก 1.9% ในปี 2566 เป็นประมาณ 3% ในปี 2567-2568 จากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว โดยปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 28 ล้านคน ในปี 2566 เป็น 35 ล้านคน ในปี 2567 และจะเพิ่มเป็น 40 ล้านคน ในปี 2568 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับก่อนเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งนี้ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จะช่วยกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน และการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป

มูดี้ส์ยังประเมินว่า การลงทุนของภาครัฐจะเพิ่มขึ้น หลังจากที่ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีมีผลบังคับใช้ อีกทั้งภาครัฐได้สนับสนุนการลงทุนของภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเพิ่มการมีส่วนร่วมในข้อตกลงการค้าเสรี แต่มูดี้ส์ไม่ได้พูดถึงโครงการ “แลนด์บริดจ์” ที่เป็น เมกะโปรเจกต์ในฝันของรัฐบาล เลยแม้แต่นิดเดียว จนถึงวันนี้ก็ไม่มีข่าวคืบหน้าอะไรเลย หลังจากที่ออกไปโรดโชว์ไม่รู้กี่ประเทศ

ข้อที่สอง มูดี้ส์ระบุว่า ภาคการคลังสาธารณะ (Public Finance) ของไทยยังมีความเข้มแข็ง แม้รัฐบาลจะดำเนินนโยบายขาดดุลทางการคลัง อย่างต่อเนื่อง ในระยะปานกลางรัฐบาลจะสามารถบริหารจัดการภาระหนี้สาธารณะให้อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ และจะกลับเข้าสู่การดำเนินนโยบาย ทางการคลังอย่างระมัดระวังได้ (Conservative Fiscal Policymaking)

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีความสามารถในการชำระหนี้ที่แข็งแกร่ง (Strong Debt Affordability) เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับเดียวกัน โดยสามารถใช้เครื่องมือการระดมทุนในประเทศที่หลากหลายด้วยต้นทุนตํ่า อีกทั้งหนี้สาธารณะส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินบาทและมีอายุเฉลี่ยยาว

ข้อที่สาม ปัจจัยสำคัญที่ “มูดี้ส์” จะติดตามเพื่อวิเคราะห์อันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยต่อไปก็คือ ศักยภาพการผลิต (Productivity) การปฏิิรูปด้านต่างๆเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และ การบริหารจัดการภาระหนี้สาธารณะในระยะปานกลาง ตลอดจนการมุ่งเข้าสู่สมดุลทางการคลัง (Fiscal Consolidation)

ข้อมูลที่มูดี้ส์ใช้จัดอันดับเครดิตประเทศไทย ดูแล้วก็ไม่ต่างไปจากข้อมูลที่ กนง.ใช้พิจารณานโยบายดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 10 เมษายน โดยให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ทั้งนี้ กนง.ให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจไทย ปี 2567 ฟื้นตัวจากปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้น โดยคาดว่า จีดีพีปี 2567 จะขยายตัวที่ 2.6% และปี 2568 ขยายตัวที่ 3.0%

Moody’s ให้จีดีพีประเทศไทย ปี 2567 ขยายตัวถึง 3% สูงกว่าของ กนง.ที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.6% เป็นการการันตีว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแน่นอน รัฐบาลจะต้องเป็นตัวเร่งเพื่อให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ครอบคลุมประชากรทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง อย่าไปด้อยค่าเศรษฐกิจประเทศตัวเองเพื่อเหตุผลในการแจกเงิน อย่าทำครับ อย่าทำ.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ