นางสาวสุวรรณี วังกานต์ รองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ ค่าใช้จ่าย ภาวะหนี้สิน และทรัพย์สินของครัวเรือน ตลอดจนลักษณะที่อยู่อาศัย โดยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลทุกเดือนระหว่างเดือน ม.ค.-ธ.ค.ปี 2566 จากครัวเรือนตัวอย่างในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งในเขตเทศบาลและนอกเขตเทศบาล โดยจากผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน ปี 2566 พบว่ารายได้และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนทั้งสิ้นกลับมีแนวโน้มลดลง
ทั้งนี้ ในปี 2566 ครัวเรือนทั่วประเทศมีรายได้ทั้งสิ้นเฉลี่ยเดือนละ 29,030 บาท โดย 70.5% เป็นรายได้จากการทำงาน ได้แก่ ค่าจ้างและเงินเดือน กำไรสุทธิจากการทำธุรกิจและการเกษตร ส่วน 14.5% เป็นรายได้ ที่ไม่เป็นตัวเงิน ซึ่งอยู่ในรูปของสวัสดิการ, สินค้าบริการที่ได้รับมาโดยไม่ต้องซื้อ
ในส่วนของค่าใช้จ่าย พบว่าครัวเรือนมีการใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 23,695 บาท เป็นค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภคสูงสุด 3 อันดับแรก คือ อาหาร/เครื่องดื่ม/ยาสูบ สัดส่วน 35.3%, ที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ในบ้าน 21.9% และยานพาหนะ รวมการเดินทาง 16% ส่วนค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภค เช่น ภาษี เบี้ยประกันภัย คิดเป็นสัดส่วน 12.9%
เมื่อพิจารณาในส่วนของหนี้สิน พบว่ามีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนทั้งสิ้น 197,255 บาท โดย 77.7% เป็นหนี้สินที่ใช้ในครัวเรือน ได้แก่ หนี้สินเพื่อซื้อหรือเช่าซื้อบ้านและที่ดิน, ค่าใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภคและการศึกษา ส่วนอีก 22.3% เป็นหนี้สินที่ใช้ในการลงทุนและอื่นๆ ได้แก่ หนี้สินที่ใช้ทำการเกษตร ใช้ทำธุรกิจ เป็นต้น.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่