ท่ามกลางภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว บวกกับปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง อัตราเงินเฟ้อ ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยสูงขึ้นไม่สอดคล้องกับการปรับตัวของรายได้ รวมถึงนโยบายการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินที่มีความเข้มงวด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่ม New Gen และกลุ่มผู้มีกำลังซื้อระดับปานกลาง-ล่าง มักจะถูกปฏิเสธสินเชื่อ
ล่าสุด “เสนาดีเวลลอปเม้นท์” เปิดเกมสู้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “LivNex เช่าออมบ้าน” เปลี่ยนค่าเช่าเป็นเงินออม โดยระบุ จะช่วยสร้างโอกาสการมีบ้านให้กับคนไทยได้ง่ายขึ้น
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนวคิดนี้ มาจากปัญหา กลุ่ม New Gen และกลุ่มผู้มีกำลังซื้อระดับปานกลาง-ล่าง มักจะถูกปฏิเสธสินเชื่อ
ทำให้เสนาฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการเงินที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัย ผ่านนวัตกรรมทางการเงินใหม่ที่ครบวงจร “LivNex เช่าออมบ้าน” (Pay like rent, Own like savings) ฉีกทุกกฎการอยู่อาศัย ช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของบ้านแบบใหม่ได้ง่ายๆ เพียงจ่ายค่าเช่า เท่ากับมีเงินออม ไว้หักเงินต้นเมื่อพร้อมกู้สินเชื่อบ้าน ไม่ต้องชำระเงินดาวน์ ไม่ต้องรออนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร ก็สามารถเลือกโครงการ SENA ที่ต้องการได้
แค่ทำสัญญาเช่าออมก็ย้ายเข้าอยู่ได้เลย และยังสามารถโอนสิทธิ์เปลี่ยนมือได้อีกตามราคาที่ตกลงกับผู้เช่าออม หรือ ผู้ซื้อคนใหม่ นับเป็นการอำนวยความสะดวกกับลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย แต่ยังไม่พร้อมกู้ และยังสามารถผ่อนได้สูงสุด 36 เดือน ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.8% คงที่ ลดต้น ลดดอก ตลอดสัญญา
รูปแบบของ LivNex จะเป็นการทำสัญญา “เช่าออมบ้าน” โดยเงินค่าเช่าที่ลูกบ้านจ่ายจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ เงินเช่าออมสะสม และเงินดอกเบี้ย ซึ่งทางเสนาฯ คิดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับในตลาดที่ 1.8% เท่านั้น สัญญามีระยะเวลา 3 ปี ค่าเช่ารายเดือนทุกเดือนจะถูกหักดอกเบี้ยและสะสมไว้ให้ลูกบ้านจนครบสัญญา หรือเมื่อพร้อมกู้เงินสินเชื่อ ลูกค้าจะสามารถซื้อบ้านได้ในราคาบ้านที่หักเงินเช่าออมสะสม
“ยกตัวอย่าง คอนโดราคา 1 ล้านบาท ลูกบ้านจ่ายค่าแรกเข้า 3 เดือน 12,300 บาท จากนั้นผ่อนเช่าออมบ้านต่อ เดือนละ 4,100 บาท ซึ่งเมื่อหักดอกเบี้ยแล้วจะเหลือส่วนที่เป็นเงินเช่าออมบ้านสะสมเดือนแรก 2,618 บาท โดยจะสะสมเพิ่มขึ้นไปทุกเดือน (คิดดอกเบี้ยลดต้นลดดอก) เมื่อครบสัญญา 3 ปี ลูกค้าจะมีเงินสะสมรวมค่าแรกเข้าที่ 106,322 บาท และจะสามารถทำเรื่องซื้อคอนโดได้ที่ราคา 893,678 บาท จากราคาเดิม 1 ล้านบาท"
เห็นได้ว่าราคาบ้านที่ลูกบ้านจะทำการซื้อเมื่อครบสัญญานั้นถูกลง ลูกบ้านมีระยะเวลา 3 ปี ในการบริหารจัดการเครดิตส่วนบุคคล มีเวลาในการสร้างรายได้ประจำเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มวงเงินในการกู้ขณะที่ยอดที่กู้ก็จะลดลงจากการนำเงินเช่าออมสะสมมาหักลบ ซึ่งตลอดระยะเวลาสัญญาทางเสนาฯ จะมีทีมผู้เชี่ยวชาญทางการเงินคอยให้คำปรึกษาตลอด หรือถ้าลูกบ้านมีเหตุให้ไม่สามารถเช่าออมบ้านต่อได้ระหว่างสัญญา ก็สามารถโอนสิทธิ์ซึ่งมีเงินเช่าออมสะสมอยู่นี้ต่อให้คนอื่นได้ด้วย (อยู่ในการพิจารณาของบริษัท) เพื่อช่วยแก้ปัญหาการเข้าถึงการเป็นเจ้าของที่พักอาศัยได้อย่างแท้จริง”
ทั้งนี้ นวัตกรรมดังกล่าว เหมาะกับลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับบุคคลทั่วไป และโดยเฉพาะกลุ่มที่ยังมีความพร้อมด้านการเงินไม่เพียงพอที่ต้องเช่าบ้านอยู่ กลุ่ม First Jobber, กลุ่มอาชีพอิสระที่ขาดเอกสารทางการเงินที่ครบถ้วน ที่มาพร้อมกับที่ปรึกษาด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งช่วยวางแผนปรับปรุงเครดิตระหว่างการเช่าออมบ้าน เพื่อให้ลูกค้าสามารถกู้สินเชื่อที่เหมาะสมกับตนเองในเวลาที่เหมาะสม
โดยปัจจุบัน LivNex มีโครงการที่พักอาศัยของเสนาฯ ให้เลือกเป็นเจ้าของทั้งหมด 19 โครงการ กระจายอยู่หลายทำเลที่มีศักยภาพ อาทิ สุขุมวิท รามคำแหง บางนา แจ้งวัฒนะ รังสิต เป็นต้น โดยครอบคลุมทุกระดับราคาตั้งแต่ต่ำกว่าล้านจนถึงระดับราคาสูงกว่า 5 ล้านบาท
“การเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยให้กับผู้บริโภค ถือว่าเป็นหนึ่งใน Mission หลักของเสนาฯ เรามีความเข้าใจและมุ่งมั่นสร้างโอกาสให้ทุกคน ได้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยคุณภาพที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างแท้จริง ในราคาที่จับต้องได้ ควบคู่ไปกับการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ตามแนวคิดของเสนาฯ ที่พร้อม “เคียงข้างสร้างสรรค์ชีวิตยั่งยืน”