หนี้ยังท่วมหัว

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

หนี้ยังท่วมหัว

Date Time: 4 เม.ย. 2567 06:20 น.

Latest

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ย้ำชัด ไทยไม่ลด "ดอกเบี้ย" ตามเฟด ชี้ "บาทแข็งค่า" ไม่ทุบทิศทางส่งออกไทย

การอภิปรายทั่วไป รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน โดยฝ่ายค้าน ก้าวไกล และประชาธิปัตย์ กับ เพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล เป็นศึกศักดิ์ศรีระหว่าง สองขั้วอำนาจทางการเมือง อย่างแท้จริง เป้าหมายของการอภิปรายในครั้งนี้มุ่งไปที่ นายกฯเศรษฐา พรรคเพื่อไทย และ ทักษิณ ชินวัตร ศูนย์กลางอำนาจโดยตรงไม่อ้อมค้อม

การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ว่าจะมีการลงมติหรือไม่ลงมติ ก็ไม่มีอะไรแตกต่างสำหรับพรรคฝ่ายค้านและประชาชน เนื่องจากเป็นระบบรัฐสภาเสียงข้างมาก ตราบใดที่ผลประโยชน์ในรัฐบาลลงตัว เสียงข้างมากช่วยกันลากไป ไม่มีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งจะแตกต่างจากการเมืองในอดีต อภิปรายไม่ไว้วางใจที แกนนำรัฐบาล พรรคการเมืองต้องมุดมุ้งเข้าบ้านโน้นที บ้านนี้ที

สมัยนี้ใช้วิธีเปิดก๊อกเอา เพราะฉะนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ละครั้ง จึงจะมีผลระหว่าง สส.พรรคร่วมรัฐบาล และ รมต.ในรัฐบาล ด้วยกัน ใครคนไหนอยากได้มือสนับสนุนมากน้อยแค่ไหนก็ไปว่ากันนอกรอบ

แต่จะถึงขั้นล้มรัฐบาลไม่มีทางเกิดขึ้นสำหรับการเมืองธนกิจ

ภาคการเมืองก็เป็นเรื่องของนักการเมือง แต่ภาคประชาชน ยังอดอยากปากแห้ง ไม่ต้องไปเอาข้อมูลจากสภาพัฒน์หรือแบงก์ชาติมาเปรียบเทียบ เอาความจริงที่เห็นกันทุกวัน คนว่างงานที่ตกงานมากขึ้น หรือยังอยู่ในภาคแรงงานแต่ค่าตอบแทนลดลง จากการลดการทำงานล่วงเวลา การจ่ายเงินเดือนล่าช้า ยกเลิกสวัสดิการ หรือลดจำนวนคนงาน วันทำงาน ไปจนถึงการเลิกจ้างปิดกิจการ โดยไม่มีการจ่ายเงินชดเชย

ภาคแรงงานคำนวณแล้วว่า จะต้องมีค่าจ้างขั้นต่ำไม่ต่ำกว่า 497 บาท ทั่วประเทศถึงจะเพียงพอในการดำรงชีพ เพียงพอที่จะซื้ออาหารได้ครบ สามมื้อ ค่าแรงวันละ 300 กว่าบาท ซื้อหมูทอดได้มื้อละครึ่งขีด 20 บาท อิ่มหรือไม่อิ่มก็มีเงินซื้อกินแค่นี้ คนขายหมูทอดก็เริ่มจะขาดทุนเพราะขายได้ครั้งละครึ่งขีด ในที่สุดก็ต้องเลิกขายนี่คือความจริง

แบงก์ชาติ วิเคราะห์เศรษฐกิจการเงินไทยเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา การส่งออกสินค้า ติดลบ 2.9% การนำเข้าสินค้า บวก 4.2% ขาดดุลแน่นอน ที่เพิ่มขึ้นคือ จำนวนนักท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชนบวก 0.1% การลงทุนภาคเอกชนบวก 0.8% แต่การใช้จ่ายภาครัฐหดตัว อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลง ตลาดแรงงานยังทรงตัว ดุลบัญชีเดินสะพัดยังเกินดุลอยู่ การขยายตัวทางเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับต่ำ

ตัวเลขที่ต้องเฝ้าระวังคือ หนี้สินภาคครัวเรือน อยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 90 ของจีดีพี หนี้ภาครัฐอยู่ในระดับที่สูง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังผันผวน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ทำให้รัฐบาลต้องรับภาระการชดเชยราคาน้ำมันจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ติดลบมากขึ้น ณ วันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา กองทุนน้ำมันติดลบที่ 98,220 ล้านบาท แตะแสนล้านเข้าไปแล้ว เพราะรัฐต้องชดเชยดีเซลที่ลิตรละ 4.17 บาท ไม่ให้ราคาขายปลีกดีเซลเกินกว่าลิตรละ 30 บาทหรือต้องจ่ายเงินชดเชยราคาน้ำมันที่เดือนละ 8,700 ล้านบาท ล่าสุดราคาน้ำมันสำเร็จรูปดีเซลขึ้นไปอีกลิตรละ 2.32 ดอลลาร์ อยู่ที่ 105.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เบนซินบวกถึง 4.99 ดอลลาร์ อยู่ที่ 104.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

หนี้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดทั้งภาครัฐและประชาชน.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ