นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เดือน ก.พ.67 ไทยมีมูลค่าส่งออก 23,384.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพิ่ม 3.6% เมื่อเทียบเดือน ก.พ.66 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 คิดเป็นเงินบาท 827,139 ล้านบาท การนำเข้า 23,938.9 ล้านเหรียญ เพิ่ม 3.2% คิดเป็นเงินบาท 856,508 ล้านบาท ขาดดุล 554 ล้านเหรียญ หรือ 29,369 ล้านบาท ส่วนช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.67 การส่งออก 46,034.7 ล้านเหรียญ เพิ่ม 6.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นเงินบาท 1.611 ล้านล้านบาท การนำเข้า 49,346.6 ล้านเหรียญ เพิ่ม 2.9% คิดเป็นเงินบาท 1.747 ล้านล้านบาท ขาดดุลการค้า 3,311.9 ล้านเหรียญ หรือ 135,476 ล้านบาท
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจคู่ค้า และภาคการผลิตคู่ค้าฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะจีน ความต้องการซื้อสินค้าเกษตรของโลกฟื้นตัว ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรได้รับอานิสงส์จากภาคท่องเที่ยวขยายตัว ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเติบโตจากกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ตามกระแสเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงรัฐและเอกชนทำงานร่วมกันใกล้ชิดเพื่อผลักดันการส่งออก ส่งเสริมการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ ผลักดันการส่งออกสินค้าเอสเอ็มอี
แต่ยังต้องจับตาปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะภูมิรัฐศาสตร์อย่างใกล้ชิด ส่วนตัวเลขการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นจนทำขาดดุลการค้า ก็ไม่น่าห่วง เพราะเป็นการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบที่นำมาผลิตเพื่อส่งออก สำหรับแนวโน้มเดือน มี.ค.67 น่าจะยังขยายตัวดีต่อเนื่อง แม้อาจน้อยกว่าเดือน มี.ค.66 ที่มูลค่าสูงมากถึงกว่า 28,000 ล้านเหรียญ แต่ทั้งปี 67 ยังยืนยันเป้าหมายการส่งออกขยายตัวที่ 1-2% เมื่อเทียบปี 66
สำหรับการส่งออกผลไม้ ที่ปกติผลผลิตจะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นไปนั้น ในปีนี้ผลผลิตจะออกล่าช้าจากเดิมไป 1 เดือน หรือออกเดือน พ.ค. เพราะผลกระทบ จากภัยแล้ง กระทรวงพาณิชย์จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงก่อนหยุดสงกรานต์ เพื่อปรับมาตรการบริหารจัดการผลไม้ใหม่เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคา ขณะเดียวกัน ช่วงปลาย เดือน เม.ย.นี้ รมว.พาณิชย์จะเดินทางยังด่านโมฮานของจีน และ รมช.พาณิชย์จะเดินทางไปด่านโหยวอี้กว่านของจีน เพื่อ หารือกับจีนให้อำนวยความสะดวกการส่งออก เพื่อให้มั่นใจว่า การส่งออกผลไม้จะไม่มีปัญหาใดๆ โดยปี 66 ไทยส่งออกผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง 2.7 ล้านตัน มูลค่า 5,600 ล้านเหรียญฯ หรือ 194,000 ล้านบาท.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่