นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า เพื่อให้สอดรับนโยบาย IGNITE Thailand ของรัฐบาลในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Hub) และการตั้งเป้าดึงอุตสาหกรรมแห่งอนาคตมาขยายธุรกิจในไทย โดยเฉพาะเทคโนโลยีชั้นสูง ทั้งการลงทุนโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์, การตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) รองรับเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง, การวิจัยและนำปัญญาประดิษฐ์หรือ AI มาใช้ประโยชน์ในไทย “กระทรวงดีอีได้เข้าร่วมการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีหรือ FTA ในประเด็นเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าดิจิทัล เพื่อรองรับและผลักดันนโยบายการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม โดยมี FTA ที่คาดว่าจะบรรลุข้อตกลงได้ในปี 67 ได้แก่ 1.ข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ 2.ข้อตกลงการค้าเสรีไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป 3.ข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)
นอกจากนี้ยังมีข้อตกลงที่อยู่ระหว่างเจรจาและจะแล้วเสร็จปี 68 ได้แก่ 1.ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล 2.ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-แคนาดา 3.ข้อตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างขอเข้าร่วมเจรจาในข้อตกลงอื่นๆอีก ได้แก่ ข้อตกลงหุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Partnership Agreement: DEPA) ซึ่งเป็นสนธิสัญญาที่จะพัฒนาแนวทางการทำงานระหว่างประเทศในด้านการค้าและความร่วมมือในเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อส่งเสริมความสามารถในการทำงานร่วมกันในการพัฒนามาตรฐาน ระบบ และกฎเกณฑ์ของการค้าดิจิทัล ซึ่งการเตรียมความพร้อมและสนับสนุนการเจรจาภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรีด้านดิจิทัลกับประเทศต่างๆอย่างเต็มที่ จะทำให้ประเทศไทยขยับสู่การเป็นดิจิทัลฮับและสนับสนุนการขับเคลื่อนไปสู่อุตสาหกรรมใหม่หรือ New S-Curve ได้.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่