รูดนอกวีซ่า/มาสเตอร์ชาร์จเพิ่ม 1%

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

รูดนอกวีซ่า/มาสเตอร์ชาร์จเพิ่ม 1%

Date Time: 13 มี.ค. 2567 05:30 น.

Summary

  • กำลังเป็นประเด็นร้อนในเวลานี้ เมื่อสถาบันการเงินที่ให้บริการ บัตรเครดิต Visa และ Mastercard หลายแห่ง แจ้งผ่านเว็บไซต์ให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าเมื่อ 1 มีนาคม ว่า ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 1% จากยอดเงินใช้จ่ายสำหรับ รายการใช้จ่ายในต่างประเทศที่จ่ายเป็นสกุลเงินบาท หรือ ซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้

กำลังเป็นประเด็นร้อนในเวลานี้ เมื่อสถาบันการเงินที่ให้บริการ บัตรเครดิต Visa และ Mastercard หลายแห่ง แจ้งผ่านเว็บไซต์ให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าเมื่อ 1 มีนาคม ว่า ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 1% จากยอดเงินใช้จ่ายสำหรับ รายการใช้จ่ายในต่างประเทศที่จ่ายเป็นสกุลเงินบาท หรือ ซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท รวมทั้ง การกดเงินสดจากตู้ ATM ในต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท ค่าธรรมทำเนียบที่เพิ่มขึ้น 1% นี้จะคิดจากยอดเงินในวันที่บันทึกรายการใช้จ่าย เรียกว่า “ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท” หรือ Dynamic Currency Conversion Fee (DCC) คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่า การแปลงเงินสกุลต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท จะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไร

ร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ เช่น แอร์เอเชีย Apple Netflix Amazon TikTok Alipay Facebook Google Airbnb Agoda Booking.com Trip.com ฯลฯ ถ้าเลือกจ่ายเป็นสกุลเงินบาท ล้วนถูกเก็บเพิ่ม 1% บวกเข้าไปในรายการที่จ่ายทันที

อย่างเช่น การจองโรงแรมในต่างประเทศผ่าน Agoda หรือ Booking.com เลือกชำระเป็นสกุลเงินบาท เช่น 3,000 บาท จะมีค่า DCC Fee 1% ของยอดเงินที่จ่าย 3,000 บาท คือ 30 บาท บวกเข้าไปด้วยเป็นจ่ายจริง 3,030 บาท ปกติการจองโรงแรมในต่างประเทศผ่านเว็บไซต์เหล่านี้ ก็ให้จ่ายเป็นเงินบาทอยู่แล้ว เพื่อความสะดวกในการชำระเงิน การคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 1% จะคิดหลังจากที่แปลงเงินต่างประเทศเป็นเงินบาทแล้ว เท่ากับฟันกำไรสองต่อทั้งอัตราแลกเปลี่ยนและ DCC Fee 1% ปีนี้สมาคมการท่องเที่ยวคาดว่า จะมีคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ 10 ล้านคน ญี่ปุ่นประเทศเดียวก็ 1 ล้านคน ลองคิดเล่นๆ Visa และ Mastercard จะฟันกำไรฟรีๆอีก 1% มากมายขนาดไหน

ผมเห็นด้วยกับ คุณสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการแบงก์ชาติ สายนโยบายสถาบันการเงิน ที่แถลงว่า จะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาหารือทั้งหมด ทั้ง สถาบันการเงินที่ออกบัตรเครดิต และ Visa และ Mastercard ถึงเหตุผลการเรียกเก็บ 1% จ่ายใครบ้าง จ่ายเท่าไหร่ มีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการให้บริการส่วนนี้อย่างไร ต่อให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้นจริง ผู้คิดค่าบริการก็ต้องมีการประกาศให้ประชาชนทราบว่า เป็นการเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการใช้จ่าย ไม่ใช่ลักษณะบังคับต้องจ่ายอย่างที่ประกาศ

ปัจจุบัน คนไทยถือบัตรเครดิตราว 26-27 ล้านใบ ข้อมูลหน้าเศรษฐกิจไทยรัฐเปิดเผยว่า ปี 2566 คนไทยชำระเงินด้วยบัตรอิเล็กทรอนิกส์ในต่างประเทศสูงถึง 302,826 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 49,049 ล้านบาท เป็นการชำระค่าสินค้าและบริการ ณ จุดขายในต่างประเทศด้วยบัตรเครดิต 121,452 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 35,444 ล้านบาท รองมาเป็นการชำระค่าสินค้าและบริการออนไลน์ในต่างประเทศด้วยบัตรเครดิต 82,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,981 ล้านบาท จากปีก่อน

และข้อมูลจาก “ลงทุนแมน” ระบุว่า ปี 2564 Visa มีรายได้ 868,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 443,000 ล้านบาท ปี 2565 มีรายได้ 1.055 ล้านล้านบาท มีกำไรสุทธิ 539,000 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิสูงถึง 51% ของรายได้ เป็น “เสือนอนกิน” จริงๆ และ Mastercard ปี 2564 มีรายได้ 980,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 313,000 ล้านบาท ปี 2565 มีรายได้ 801,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 357,000 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อรายได้ 45% มีธุรกิจอะไรที่ทำกำไรได้มากมายขนาดนี้ แค่เป็น “คนกลาง” ในการจ่ายเงินเท่านั้น

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นการบังคับจ่ายโดยประชาชนผู้ใช้บัตรไม่มีทางเลือก เป็นเรื่องที่ แบงก์ชาติ และ กระทรวงการคลัง จะต้อง “บูรณาการ” ในการปกป้องไม่ให้ผู้ใช้บัตรถูกเอาเปรียบมากเกินไป วันนี้มีเพียง Visa Mastercard สองบัตรเครดิตเท่านั้นที่เรียกเก็บค่าฟีเพิ่ม 1% บัตรเครดิตอื่น เช่น JCB UnionPay ยังไม่มีการเก็บ อาจเป็นทางเลือกใหม่ในอนาคตของผู้ถือบัตรเครดิตก็ได้ เป็น “เสือนอนกิน” กำไรมากขนาดนี้ยังไม่ยอมพอ.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ "หมายเหตุประเทศไทย" เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ