ลงทุนอย่างไร? ไม่ให้เจอ “แชร์ลูกโซ่” ธุรกิจเก็งกำไร เน้นหาสมาชิก ต้องพึงระวัง อย่าหลงกลคนใกล้ตัว

“สบู่ปลดหนี้” กลายเป็น คำค้นหาในโลกออนไลน์ ตลอด 1-2 วันนี้ หลังปรากฏข่าว “ฝน ธนสุนทร” ถูกโยง มีเอี่ยวโปรเจกต์ปลดหนี้ ที่ไส้ในอาจเป็น “แชร์ลูกโซ่”

ก่อนภายหลัง ทั้งเจ้าของแบรนด์สบู่ และนักร้องดัง โร่ชี้แจงว่า ธุรกิจขายสบู่หรือโปรเจกต์ปลดหนี้ดังกล่าว ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ เป็นแค่ธุรกิจออนไลน์ทั่วไป โดยที่ตัวแทน ไม่ต้องซื้อสินค้าไปสต๊อกไว้ และไม่มีการกำหนด บังคับยอดขาย แต่อย่างใด 

ย้อนไป คำว่า “แชร์ลูกโซ่” นั้น เป็นข่าวให้เห็นอย่างต่อเนื่องในสังคมไทย รูปแบบที่คนรุ่นเก่าๆ คุ้นตากันดี อาจเป็น กิจกรรมเชิญชวน ซื้อขายสินค้าเกษตร การชักชวนให้มาร่วมธุรกิจต่างๆ ขณะปัจจุบัน ขยับลามมาที่การเชิญชวน ลงทุนในหุ้นบ้าง ในทองคำ สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นต้น 

โดยสโลแกนตายตัว  คือ “ลงทุนง่าย ผลตอบแทนสูง” ขณะเดียวกัน มักมีรูปแบบที่เน้นการหาสมาชิกเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น!  

ทั้งนี้ เมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล ก็ดูเหมือนว่า กิจกรรมของแชร์ลูกโซ่ จะพัฒนาตามกระแสดิจิทัลมากขึ้นเช่นกัน อย่างกรณี Forex 3D ที่เป็นข่าวดังในช่วงปีที่ผ่านมานั่นเอง 

ข้อมูลสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เผยแพร่ว่า “แชร์ลูกโซ่” และธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่ เป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี และปรับตั้งแต่ 5 แสน ถึง 1 ล้านบาท 

แชร์ลูกโซ่ สายพันธุ์ใหม่ เน้นเก็งกำไร เตือนเท่าไร ก็ยังมีคนตกเป็น “เหยื่อ” 

เจาะความหมายและรูปแบบของการหลอกลงทุน อย่าง แชร์ลูกโซ่ เพิ่มเติม มักอยู่ภายใต้ประโยคทอง “สมาชิกทวีคูณ รวยทวีเท่า” ซึ่งเป็นรูปแบบหลอกลวงประชาชน โดยอาศัยวิธีการหาสมาชิกของธุรกิจ “ขายตรง” มาบังหน้า โดยชักชวนประชาชนให้สมัครเป็นสมาชิกกับบริษัท แต่แทนที่จะเน้นการหารายได้จากการขายสินค้าเหมือนธุรกิจขายตรงอื่นๆ แต่กลับเน้นการหารายได้จากการหาสมาชิกใหม่ รับรายได้จากการหาคน แทนการขายของ โดยใช้วิธีการหมุนเวียนเงิน 

นำเงินจากสมาชิกใหม่มาหมุน เพื่อจ่ายผลตอบแทนให้กับสมาชิกเก่าที่เคยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงๆ โดยเงินจะวนระหว่างสมาชิกใหม่-เก่ากันไปในลักษณะนี้เรื่อยๆ (เพราะไม่มีการทำธุรกิจจริง) จนสุดท้าย ระบบจะล้มลงเมื่อมีการหมุนเงินไม่ทัน หรือผู้ก่อตั้ง/สมาชิกรายใหญ่หอบเงินหนีไป ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น สมาชิกที่เหลือจะสูญเงินต้นกันทันที

ซึ่งรูปแบบ “แชร์ลูกโซ่” ในปัจจุบัน ยังได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทีมงานที่ฝึกฝนมาอย่างดี มาชักชวนโน้มน้าวให้ร่วมลงทุน เช่น การซื้อขายเงินตราต่างประเทศ ในลักษณะเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น 

เลือกลงทุนอย่างไร ไม่ให้เจอ “แชร์ลูกโซ่”

ขณะศูนย์วิจัยกสิกรไทย ให้รายละเอียดเตือนภัยไว้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมหน้าฉากในรูปแบบใด หากมีคุณสมบัติเข้าข่าย 4 ข้อดังต่อไปนี้ ให้พึงระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจพบเจอกับแชร์ลูกโซ่เข้าแล้ว

• ตัวกิจการ : กิจการไม่ได้จดทะเบียน หรือจดทะเบียนแล้ว แต่ดำเนินธุรกิจต่างจากที่ยื่นจดทะเบียนไว้ ขณะที่ มักไม่มีรายละเอียดของผู้บริหาร/ผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน และแผนการลงทุนไม่ชัดเจน โดยอาจอ้างว่าต้องเก็บเป็นความลับ
• การรับสมาชิกและการขายสินค้า : มักมีเงื่อนไขให้สมาชิกต้องซื้อสินค้า เพื่อเข้าร่วมธุรกิจในครั้งแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลับเน้นให้สมาชิกชักชวนคนอื่นมาเข้าร่วมเครือข่าย มากกว่าการเสนอขายสินค้า ส่วนตัวสินค้าเองมักมีคุณภาพต่ำ มีการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง หรือเป็นบริการที่ฟังดูดี แต่มีกลไกซับซ้อน ตรวจสอบยาก
• ผลตอบแทน : การจ่ายผลตอบแทนขึ้นกับจำนวนสมาชิก ยิ่งหาสมาชิกได้มากผลตอบแทนยิ่งมาก หรือไม่...ก็มีการการันตีผลตอบแทนในลักษณะคงที่ที่ค่อนข้างสูง ไม่ได้ขึ้นกับสภาวะตลาด ขณะที่ มักไม่มีเอกสารรองรับการทำธุรกรรม
• การคืนสินค้าหรือคืนเงิน : มักไม่มีนโยบายคืนสินค้า/คืนเงิน (เพราะได้เอาเงินไปจ่ายให้สมาชิกเก่าหมดแล้ว) หรือมักทำให้มีขั้นตอนการคืนสินค้า/คืนเงิน/ถอนเงินที่ยุ่งยาก เพื่อสมาชิกถอนทุนได้ยาก

5 กฎจำง่ายๆ ไม่ถูกหลอกเป็น “เหยื่อ” ธุรกิจร่วมลงทุน 

• โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี 
• ไม่มีการลงทุนอะไร ที่ให้ผลตอบแทน 40-60% ต่อเดือน 
• อย่าหลงเชื่อคนแปลกหน้า คนใกล้ตัวก็เชื่อไม่ได้ 
• ห่างไกลแชร์ลูกโซ่ ครอบครัวสุขสันต์เงินอยู่ครบ 
• ไม่แน่ใจ โทร. 1359 ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 

ที่มา : กระทรวงการคลัง ,ศูนย์วิจัยกสิกรไทย 

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investmen

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney