คลังกุมขมับ!รายได้พลาดเป้า เหตุปรับลดภาษีน้ำมันดีเซล-เบนซิน

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 67 (เดือน ต.ค.66-ม.ค.67) รัฐจัดเก็บรายได้สุทธิ 824,115 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1.1% หรือ 8,836 ล้านบาท สาเหตุจากกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการ เพราะปรับลดภาษีน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซิน ส่วนหน่วยงานที่เก็บรายได้สูงกว่าประมาณการ เช่น รัฐวิสาหกิจที่บางแห่งนำส่งรายได้เหลื่อมมาจากปีก่อนหน้า และกรมสรรพากรจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) “รายได้สุทธิเก็บได้ต่ำกว่าปีก่อน 1.8% เพราะปีก่อน จัดเก็บรายได้พิเศษเข้ามา เช่น ค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ ค่าคดีฟ้องร้อง ฯลฯ รวม 36,666 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายได้พิเศษ รัฐบาลยังมีรายได้สุทธิรวมสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.7%”

สำหรับรายได้รวมของ 3 กรมภาษี 835,477 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 15,899 ล้านบาท หรือ 1.9% แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 1.8% แบ่งเป็นสรรพากรจัดเก็บได้ 622,691 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6,780 ล้านบาท หรือ 1.1% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 1.5%, สรรพสามิต 172,821 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 23,744 ล้านบาท หรือ 12.1% แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 7.7% และศุลกากร 39,965 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,065 ล้านบาท แต่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 15.2% ส่วนรัฐวิสาหกิจ 70,881 ล้านบาท มากกว่าเป้าหมาย 8,021 ล้านบาท และส่วนรวมราชการอื่นและกรมธนารักษ์ 56,200 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 1,584 ล้านบาท หรือลบ 2.7%

ขณะเดียวกัน รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 831,752 ล้านบาท และเบิกจ่ายงบ 1.18 ล้านล้านบาท โดยได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 20,000 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ม.ค.67 อยู่ที่ 172,928 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่รัฐบาลจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายเป็นครั้งแรกในรอบปีงบประมาณนี้ น่าจับตาว่าจะกระทบการดำเนินนโยบายการคลัง และการใช้มาตรการภาษีเพื่อดูแลเศรษฐกิจหรือไม่ โดยเฉพาะการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เพื่อตรึงราคาขายปลีกไม่เกินลิตรละ 30 บาท จะสิ้นสุดวันที่ 19 เม.ย.67 ซึ่งรัฐบาลอาจขยายเวลาต่อ และหากต่อเวลาอีก อาจยิ่งซ้ำเติมให้ภาพรวมรายได้ติดลบมากกว่าเดิม และกระทบต่อฐานะการคลัง โดยการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลทุก 1 บาท จะทำให้สูญเสียรายได้ 2,000 ล้านบาทต่อเดือน.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่