นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองอธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 68 เป็นต้นไป กรมจะบังคับให้ผู้ประกอบการทุกรายต้องนำส่งข้อมูลการจ่ายเงินเดือนพนักงานเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หากไม่ส่งผ่านระบบออนไลน์ สามารถส่งเป็นแผนซีดีได้ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ประชาชนผู้เสียภาษีสามารถตรวจสอบการเสียภาษี หัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ผ่านระบบ My Tax Account ได้ ซึ่งนอกจากจะตรวจสอบข้อมูลได้รวดเร็วแล้ว ยังลดการปลอมแปลงหนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่าย ประหยัดเวลาการทำงานของบริษัท ประหยัดต้นทุน และลดการใช้กระดาษ อีกทั้งยังอำนวยความสะดวกให้พนักงานลูกจ้าง ที่มีเงินได้จากหลายแหล่ง สามารถเห็นการหักภาษี ณ ที่จ่าย ของบริษัทต่างๆที่เป็นผู้จ่ายเงินได้ให้กับตนเอง ไม่จำเป็นต้องตระเวนขอหนังสือรับรองจากแต่ละบริษัท
“ในอนาคตจะเชื่อมโยงข้อมูลภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งหมดให้อยู่ใน My Tax Account เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เสียภาษี แต่ขณะนี้ข้อมูลบางอย่างยังไม่สามารถเชื่อมต่อผ่านออนไลน์ได้ เช่น ข้อมูลเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่นายจ้างหักจากเงินเดือนลูกจ้าง แล้วนำส่งให้กองทุนบริหาร ซึ่งข้อมูลนี้อยู่กับนายจ้าง แต่กรมจำเป็นต้องได้ข้อมูลโดยตรงจากกองทุน ซึ่งการวางระบบเชื่อมโยงข้อมูลต้องใช้เวลา เมื่อเชื่อมโยงข้อมูลทั้งระบบ กรมก็แจ้งให้นายจ้างทราบถึงการหักภาษี ณ ที่จ่าย แบบพอดี ไม่ต้องหักไว้เกิน ลดการยื่นขอคืนภาษีภายหลังได้.”
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่