ส่องการเติบโต FDI 5 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมอะไร ประเทศไหนลงทุนเยอะสุด

ท่ามกลางความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) จากความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจสหรัฐฯ และจีน สู่การแบ่งขั้วของเศรษฐกิจโลก (Decoupling) ที่ทำให้ประเทศต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่พึ่งพาการลงทุนโดยตรงจากทั้งสองประเทศ ต้องเลือกข้างไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เพื่อความอยู่รอด 

การแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจ ทำให้ขณะนี้บริษัททั่วโลกในหลายอุตสาหกรรม เร่งปรับโครงสร้างซัพพลายเชนครั้งใหญ่ เพื่อกระจายความเสี่ยง ลดผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับประเทศกำลังพัฒนาในกลุ่มอาเซียน รวมถึงไทย ที่กลายเป็นที่จับจ้องของนักลงทุนต่างชาติในการย้ายฐานการลงทุน

แม้ไทยจะมีความได้เปรียบเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรองรับการลงทุน มากกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียน แต่ปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นลาว เวียดนาม อินโดนีเซีย ก็พัฒนาจุดแข็งด้านทักษะแรงงาน โครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงนโยบายดึงดูดการลงทุนจากภาครัฐ จนนำหน้าไทยในหลายด้าน และเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องร่วมกันหาคำตอบว่า “ไทย” ยังเป็นประเทศที่น่าลงทุนมากแค่ไหนในเวทีโลก

Thairath Money พาส่องการเติบโต FDI ในไทย ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา แนวโน้มเปลี่ยนไปอย่างไร อุตสาหกรรมอะไรที่ครองใจนักลงทุนต่างชาติ และประเทศไหนลงทุนในไทยมากที่สุด

การเติบโตของมูลค่าการลงทุน

จากการรวบรวมข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี ระหว่างปี 2561-2565 พบว่า มูลค่าเงินลงทุนสุทธิโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI Netflow) โดยอ้างอิงสถิติธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งครอบคลุมข้อมูลธุรกรรมต่างประเทศทุกภาคเศรษฐกิจที่เข้ามาลงทุนในไทยทั้งหมด

มีการเติบโตดังนี้

ปี 2561 - มีมูลค่า FDI Netflow 440,806 ล้านบาท

โดยโครงการต่างชาติที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมในปี 2561 (ม.ค. - ธ.ค.) มี 914 โครงการ คิดเป็น 62% ของจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมทั้งหมด และโครงการที่ได้รับอนุมัติส่วนใหญ่ อยู่ในอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภคจำนวน 351 โครงการ คิดเป็น 38% ของโครงการต่างชาติที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด

ทั้งนี้มูลค่าเงินลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง มูลค่ารวม 88,048 ล้านบาท คิดเป็น 35% ของมูลค่าเงินลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด

ปี 2562 - มีมูลค่า FDI Netflow 166,892 ล้านบาท

โครงการต่างชาติที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมในปี 2562 (ม.ค. - ธ.ค.) มี 876 โครงการ คิดเป็น 58% ของจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมทั้งหมด และโครงการที่ได้รับอนุมัติส่วนใหญ่ อยู่ในอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค จำนวน 238 โครงการ คิดเป็น 27% ของจำนวนโครงการต่างชาติที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด

ทั้งนี้มูลค่าเงินลงทุนส่วนใหญ่ อยู่ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง มูลค่ารวม 95,281 ล้านบาท คิดเป็น 34% ของมูลค่าเงินลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด

ปี 2563 - มีมูลค่า FDI Netflow 114,005 ล้านบาท

โดยโครงการต่างชาติที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมในปี 2563 (ม.ค. - ธ.ค.) มี 923 โครงการ คิดเป็น 61% ของจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมทั้งหมดและโครงการที่ได้รับอนุมัติส่วนใหญ่ อยู่ในอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค จำนวน 245 โครงการ คิดเป็น 27% ของจำนวนโครงการต่างชาติที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด

ทั้งนี้เงินลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง มูลค่ารวม 77,937 ล้านบาท คิดเป็น 31% ของมูลค่าเงินลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด

ปี 2564 - มีมูลค่า FDI Netflow 484,138 ล้านบาท

โดยโครงการต่างชาติที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมในปี 2564 (ม.ค. - ธ.ค.) มี 771 โครงการ คิดเป็น 49% ของจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมทั้งหมด และโครงการที่ได้รับการอนุมัติส่วนใหญ่ อยู่ในอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค จำนวน 199 โครงการ คิดเป็น 26% ของโครงการต่างชาติที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด

ทั้งนี้เงินลงทุนส่วนใหญ่ อยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่ารวม 67,759 ล้านบาท คิดเป็น 24% ของเงินลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด 

ปี 2565 - มีมูลค่า FDI Netflow 392,782 ล้านบาท

โดยโครงการต่างชาติที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมในปี 2565 (ม.ค. - ธ.ค.) มี 802 โครงการ คิดเป็น 51.61% ของจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมทั้งหมด และโครงการที่ได้รับการอนุมัติส่วนใหญ่ อยู่ในอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค จำนวน 255 โครงการ คิดเป็น 31.80% ของโครงการต่างชาติที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด 

ทั้งนี้เงินลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะเครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง มูลค่ารวม 83,119.28 ล้านบาท คิดเป็น 25.94% ของเงินลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด

ภาคบริการและสาธารณูปโภคครองใจต่างชาติ ทุ่มเงินลงทุนมากสุด 1.5 ล้านล้านบาท  

ระหว่างปี 2561-2565 มีโครงการต่างชาติที่ยื่นขอรับการส่งเสริมทั้งหมด 4,543 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 1,587,025 ล้านบาท โดยโครงการต่างชาติที่ยื่นขอรับการส่งเสริมส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภคมากที่สุด จำนวน 1,303 โครงการ คิดเป็น 28.68% ของจำนวนโครงการต่างชาติที่ยื่นขอรับการส่งเสริมทั้งหมด รองลงมา คือ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 1,072 โครงการ คิดเป็นสัดส่วน 23.60%

ทั้งนี้ต่างชาติมีมูลค่าการลงทุนส่วนใหญ่ อยู่ในอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค มากที่สุด มูลค่ารวม 405,223 ล้านบาท คิดเป็น 25.53% ของมูลค่าเงินลงทุนจากต่างชาติที่ยื่นขอรับการส่งเสริมทั้งหมด โดยมีมูลค่าเงินลงทุนในโครงการมูลค่าสูง (ตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป) เช่น 

• กิจการขนส่งทางราง มูลค่า 162,318 ล้านบาท
• กิจการขนส่งทางอากาศ (14 โครงการ) มูลค่าการลงทุนรวม 45,943 ล้านบาท
• กิจการนิคมหรือเขต Data Center (6 โครงการ) มูลค่าการลงทุนรวม 43,831 ล้านบาท 

5 ประเทศที่ลงทุน FDI ในไทยมากที่สุด

จากการรวบรวมข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี ระหว่างปี 2561-2565 โดยอ้างอิงสถิติจากธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า 5 ประเทศแรกที่มีมูลค่าการลงทุนในไทยสูงสุด ตามมูลค่ารวม 5 ปีที่ผ่านมา ได้แก่

อันดับที่ 1 ญี่ปุ่น มีมูลค่าเงินลงทุน 476,319 ล้านบาท

อันดับที่ 2 สิงคโปร์ มีมูลค่าเงินลงทุน 430,317 ล้านบาท

อันดับที่ 3 ฮ่องกง มีมูลค่าเงินลงทุน 188,274 ล้านบาท

อันดับที่ 4 จีน มีมูลค่าเงินลงทุน 163,436 ล้านบาท

อันดับที่ 5 สหรัฐอเมริกา มีมูลค่าเงินลงทุน 130,615 ล้านบาท

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

อ่านข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney