คนซื้อลดความเชื่อมั่น "คนค้าขาย" ร่วง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจเฉพาะกิจ (BSI Special) โดยพบว่าธุรกิจส่วนใหญ่ ตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2567 ขยายตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน โดย เป้าหมายยอดขายในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีกว่าการส่งออก และธุรกิจที่ตั้งเป้าหมายยอดขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อนโดยมากเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ โดยพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในธุรกิจที่พักแรม ธุรกิจผลิตอาหาร และธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์เคมีตั้งเป้าหมายยอดขายเพิ่มขึ้นตามการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว แต่ธุรกิจผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนและผลิตผลิตภัณฑ์อโลหะ เช่น ปูนซีเมนต์และเซรามิก มีผู้ประกอบการบางส่วนที่คาดว่ายอดขายทั้งในประเทศ และส่งออกจะลดลงสูงกว่าธุรกิจอื่น

ทั้งนี้ ธปท.ยังได้สอบถามถึงแนวโน้มการปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการ (เทียบกับราคาปัจจุบัน) และปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับราคาด้วย ซึ่งพบว่า โดยรวมธุรกิจกว่าครึ่งคาดว่าจะไม่ปรับราคาสินค้าและบริการในอีก 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อน แต่หากพิจารณากลุ่มธุรกิจที่จะปรับราคาขึ้น ส่วนใหญ่จะปรับขึ้นไม่เกิน 5% จากปัจจุบัน โดย ต้นทุนที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเป็นปัจจัยกดดันหลัก ทั้งนี้ ธุรกิจ SMEs มีแนวโน้มปรับราคาได้ยากกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ แต่ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว บางกลุ่มแจ้งว่าจะปรับราคาเพิ่มถึง 11-15% จากปัจจุบัน

ธปท.ยังเปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (Retailer Sentiment Index : RSI) เดือนมกราคม 2567 ซึ่งจัดทำร่วมกับ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย โดยพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกเดือนมกราคมปรับลดลงในทุกองค์ประกอบจากที่เร่งใช้จ่ายไปแล้วในช่วงปลายปี ประกอบกับกำลังซื้อของครัวเรือนฐานรากที่ยังฟื้นตัวไม่ทันค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น และภาระหนี้สินที่ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ผลของมาตรการ Easy E-Receipt ช่วยกระตุ้นยอดขายได้จำกัด โดยดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้ามีทิศทางลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปีก่อน.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่