นับถอยหลัง โปรเจกต์ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” อสังหาฯ แสนล้าน ขนาด 398 ไร่ ของไทย เปิดเต็มรูปแบบปี 67

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

นับถอยหลัง โปรเจกต์ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” อสังหาฯ แสนล้าน ขนาด 398 ไร่ ของไทย เปิดเต็มรูปแบบปี 67

Date Time: 8 ม.ค. 2567 15:42 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • สิ้นสุดการรอคอย บิ๊กโปรเจกต์ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” มูลค่าแสนล้าน ของ MQDC ก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ เตรียมเปิดให้ลูกค้าระดับไฮเอนด์ เข้าอยู่อาศัยทุกยูนิต กลางปี 2567

Latest


ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Forestias) โดย MQDC หรือ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ถูกพูดถึงอย่างมาก ในฐานะผู้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย 

เนื่องด้วยโครงการมีจุดเด่นทั้งเรื่องของขนาด ที่มีพื้นที่รวมกันเกือบ 400 ไร่ และมีพื้นที่ส่วนกลางเป็นป่า จำนวน 30 ไร่, ดีไซน์การออกแบบ, ยุทธศาสตร์ทำเลที่ตั้งโครงการที่เป็นประตูสู่ EEC ย่านบางนา-ตราด และแนวคิดการพัฒนาโครงการที่ล้ำอนาคต รวมไปถึงมูลค่าของบิ๊กโปรเจกต์ที่ว่านี้ ก็มีเม็ดเงิน มากกว่า 1 แสนล้านบาท จนเรียกได้ว่าเป็น 1 ในอาณาจักรอสังหาฯ ที่มีมูลค่าสูงสุดในประเทศไทยเลยทีเดียว

ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า โครงการ The Forestias  ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และ พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ และเปิดให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยทุกยูนิตในโครงการต่างๆ เข้าอยู่ช่วงกลางปี 2567 แล้ว หลัง 2 โครงการแรก Whizdom Destinia และ Mytopia เสร็จสมบูรณ์ พร้อมทยอยโอนให้ลูกบ้านแล้วตั้งแต่สิ้นปี 2566 ตามมาด้วยโครงการแบรนด์ต่างๆ ทยอยเสร็จอย่างต่อเนื่อง

“กิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์” ประธานผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC กล่าวว่า ขณะนี้การก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยภายในโครงการ The Forestias หลายโครงการคืบหน้าไปมาก ซึ่งโครงการที่พร้อมเริ่มโอนให้ลูกบ้านได้ตั้งแต่ต้นปีนี้ ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ Whizdom 3 โครงการ วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ มายโทเปีย  (Whizdom The Forestias Mytopia) วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ เดสทิเนีย (Whizdom The Forestias Destinia) และ วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ เพทโทเปีย (Whizdom The Forestias Petopia) ตามลำดับ 

ซึ่ง 3 โครงการแรกดังกล่าว แต่ละโครงการได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซปต์ที่แตกต่างกัน เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน

โครงการ มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า (Mulberry Grove The Forestias Villas) ซึ่งเป็นคลัสเตอร์โฮม พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซปต์เพื่อการอยู่อาศัยร่วมกันของครอบครัวใหญ่หลายเจเนอเรชันอย่างมีความสุข และ มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คอนโดมิเนียม (Mulberry Grove The Forestias Condominiums) ก็มีการก่อสร้างคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วกว่า 70% คาดว่าพร้อมทยอยโอนให้กับลูกบ้านได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้เช่นกัน 

“กิตติพันธุ์” กล่าวอีกว่า โครงการที่ร่วมมือกับ Baycrest สถาบันการดูแลสุขภาพคนวัยอิสระ ซึ่งเป็นสถาบันดูแลสุขภาพชั้นนำของโลกจากแคนาดา มาร่วมออกแบบที่อยู่อาศัย พร้อมระบบต่างๆ เพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยวัย 50+ หรือวัยอิสระ ให้กับ ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Aspen Tree The Forestias) ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปถึง 70% ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วเช่นกัน คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดพร้อมโอนได้ในเดือนเมษายนปีนี้

“โครงการ ดิ แอสเพน ทรี เป็นที่อยู่อาศัยคอนเซปต์ใหม่ของโลก ที่เน้นการดูแลตลอดชีวิต หรือ Lifetime Care จึงต้องการให้ผู้สนใจได้สัมผัสประสบการณ์จริง ซึ่ง Independent Living Community นี้ จะเน้นสร้างให้เสร็จสมบูรณ์แล้ว จึงเปิดขายอย่างเป็นทางการ เนื่องจากการตัดสินใจหลักของผู้ซื้อจะเน้นไปที่มาตรฐานการดูแล และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในโครงการ จึงจะพร้อมเปิดชมภายในโครงการจริงในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป” นาย กิตติพันธุ์ กล่าวเสริม

ขณะเดียวกัน โครงการแบรนด์ระดับโลกซิกส์เซนส์ (Six Senses) โครงการที่อยู่อาศัยหรูหราสไตล์รีสอร์ตแห่งแรกของแบรนด์ Six Senses ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับการบริหารโดย Six Senses ก็ก่อสร้างใกล้เสร็จสมบูรณ์ คาดว่าพร้อมทยอยโอนให้กับลูกบ้านได้ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีหน้าเช่นกัน

นอกเหนือจากโครงการข้างต้น เดอะ ฟอเรสเทียส์ ยังได้เริ่มพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่เพิ่งเปิดตัวใหม่เมื่อกลางปีที่ผ่านมา อย่าง “The Forestias Signature Series” (เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์) ซึ่งโครงการเหล่านี้จะทยอยพร้อมโอนให้กับลูกบ้านได้ในปี 2568

พร้อมกันนี้ ยังมี Happitat at The Forestias (แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์) ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ บนพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร รองรับไลฟ์สไตล์ของคนทุกวัยได้ครบจบในที่เดียว เป็น “จุดหมายแห่งใหม่ของความสุขเหนือจินตนาการ” (The New Themed Destination of Happiness) เพื่อให้ทุกคนทุกวัยได้มาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนสัมผัสการช็อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ ทั้งในโลกจริงและโลกดิจิทัล เพราะเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหารชั้นนำในคอนเซปต์พิเศษกว่า 300 ร้านค้า รวมทั้งมีแบรนด์แฟชั่นและแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำอีกมากมาย 

นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งการเฉลิมฉลองความสุขในทุกเทศกาล โดยจะทำงานร่วมกับศิลปินทั้งในระดับประเทศและระดับโลก รวมถึงการนำความบันเทิงในระดับเวิลด์คลาสเข้ามาจัดแสดง เพื่อตอกย้ำภาพเดสติเนชันของความสุขเหนือจินตนาการให้สมบูรณ์แบบ 

ส่วน Happitat at The Forestias (แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์) มีความคืบหน้าในการก่อสร้างแล้วเสร็จ 70% รวมทั้ง The Hilltop Offices พื้นที่ออฟฟิศให้เช่าที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน มีความคืบหน้าในการก่อสร้างแล้วเสร็จ 60% และจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดให้บริการในเดือนกันยายนปี 2567


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์