นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่ประชากรไทยและโลกมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งปี 67 ไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยเต็มรูปแบบ จากข้อมูลกรมการปกครอง เดือน พ.ย.66 ไทยมีประชากรสูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) คิดเป็น 1 ใน 5 ของประชากรทั้งประเทศ หรือราว 13 ล้านคนจาก 66 ล้านคน ที่สำคัญผู้สูงอายุมีอำนาจทางการเงิน และมีอิทธิพลต่อคนในครอบครัว จึงเป็นโอกาสของธุรกิจไทยในการนำเสนอสินค้าและบริการให้ตรงตามความต้องการ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตและสุขภาพ
ทั้งนี้ กรมได้วิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของผู้สูงอายุ เพื่อช่วยสร้างโอกาสให้กับธุรกิจไทย พบว่า ความต้องการของผู้สูงอายุที่น่าสนใจ ได้แก่ ความต้องการปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต คือ ปัจจัย 4 ได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่มห่ม ยารักษาโรค เพื่อสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิต รวมถึงสร้างสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจที่ดี สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ด้านอาหาร มีทั้งธุรกิจผลิตอาหารปรุงสำเร็จและอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ภัตตาคาร/ร้านอาหาร ธุรกิจบริการเครื่องดื่ม ฯลฯ, ที่อยู่อาศัย ต้องออกแบบเพื่อรองรับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ เครื่องอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการทำกิจกรรมต่างๆในที่พัก ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น อสังหาริมทรัพย์ ออกแบบและตกแต่งภายใน ผลิตเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ
ส่วนเสื้อผ้าต้องออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระที่เปลี่ยนแปลงไป ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ผลิตชุดชั้นในและชุดนอน ขายส่ง/ขายปลีกเสื้อผ้า ฯลฯ และยารักษาโรค ที่สามารถรักษาบรรเทาอาการเจ็บป่วยให้เหมาะสมกับสภาวะร่างกาย เช่น โรงพยาบาล คลินิกรักษาโรคทั่วไป ผลิตเภสัชภัณฑ์และเคมีที่ใช้รักษาโรค ปลูกพืช เครื่องเทศ เครื่องหอมรักษาโรค ฯลฯ ขณะที่กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความต้องการความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิต เช่น ธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุน ให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการการเงิน ประกันชีวิต ประกันภัย ฯลฯ ซึ่งต้องหาช่องทาง รูปแบบการลงทุน หรือหลักประกันที่เหมาะสมกับช่วงอายุ ความเสี่ยงและผลตอบแทนต่างๆ เพื่อจูงใจกลุ่มผู้สูงอายุ.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่